รายงานพิเศษ : ชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริต จัดอบรมเครือข่ายภาคประชาชนป้องกันการทุจริต

   เมื่อ : 06 เม.ย. 2568

           ชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดอุบลราชธานี  จัดอบรมตามโครงการ สร้างเสริมความเข้มแข็งเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนจับตามองและสอดส่องแจ้งเบาะแส ปีที่ 2 ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุน ปปช. (รุ่นที่ 1) กิจกรรมที่ 2 อบรมเชิงปฏิบัติการ ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราชธานี และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี 

           โดยมีว่าที่ร้อยตรีกรกฏ ประเสริฐวงศ์ รองผวจ.อุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีเปิด และมีนายประชา สิทธิโชค ประธานชมรมสตรอง กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ โดยจัดอบรมระหว่างวันที่ 4-5 เมษายน 2568 ณ โรงแรมบ้านสวนคุณตาแอนด์รีสอร์ต อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วย เครือข่ายองค์กรภาคประชาชน และเครือข่าย(อพม) อาสาสมัครพัฒนาสังคม จาก 5 อำเภอ คือ อำเภอเขมราฐ อำเภอโขงเจียม อำเภอโพธิ์ไทร อำเภอกุดข้าวปุ้น และอำเภอศรีเมืองใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการชมรม Strong- จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดอุบลราชธานี และได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรบรรยายให้ความรู้ จาก สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราชธานี 

           สำหรับวัตถุประสงค์ในการอบรมครั้งนี้

1. เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายองค์กร และผลักดันโมเดล STRONG - สู่เครือข่ายองค์กร ชมรม ชุมชน ภาคประชาชน

2. เพื่อส่งเสริมให้เครือข่ายองค์กร ชมรม ชุมชน และ ประชาชนในพื้นที่มีความตระหนักและมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาและภัยจากการทุจริต ให้เกิดการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง

3. เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการป้องกันการทุจริตการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและการจับตามองสอดส่องแจ้งเบาะแสเป็นกลไกการเชื่อมโยง กิจกรรมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนกับการปฏิบัติงานตามภารกิจของสำนักงาน ป.ป.ช. ด้วยการนำผลการสำรวจและจับตามองของภาคประชาชนมาผ่านกระบวนการวิเคราะห์เพื่อนำสู่การแจ้งเบาะแสผ่านช่องทางของสำนักงาน ป.ป.ช. หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป

          เป้าหมายในการดำเนินโครงการฯ ในปี พ.ศ.2567 ชมรม Strong-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดอุบลราชธานี ได้ขอรับงบประมาณสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการสร้างเสริมความเข้มแข็งเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน จับตามองและสอดส่องแจ้งเบาะแส โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือเครือข่าย อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์หรือ (อพม.) จำนวน 10 อำเภอ จำนวน 200 คน จากการฝึกอบรมกลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจมากกว่าร้อยละ 87.29% 

          นอกจากนี้แล้วการลงพื้นที่ติดตามประเมินผลเครือข่าย อพม.ระดับ อำเภอ ที่เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ สามารถนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อการเฝ้าระวังความเสี่ยงในพื้นที่ และมีส่วนร่วมแจ้งข้อมูลเบาะแสความเสี่ยงต่อการทุจริตไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของภาครัฐในการยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยมุ่งจับตามองการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการดำเนินงานของภาครัฐที่ใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์ส่วนรวมต่อคนในพื้นที่อย่างแท้จริง (คิด ทำ ทิ้ง) โดยสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับนำไปขับเคลื่อนกิจกรรมระดับพื้นที่ของตนเองทำให้เกิดประโยชน์ต่อโครงการต่างๆ ของหน่วยงานรัฐที่มีความเสี่ยง สามารถระงับหรือยับยั้งโครงการที่เกิดขึ้นและได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความคุ้มค่ากับงบประมาณ

            ทั้งนี้  ด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กำหนดให้รัฐมีหน้าที่ต่อประชาชนและวางกลไก ป้องกัน ตรวจสอบและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ตามมาตรา 63 โดยรัฐต้องส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ พร้อมจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าวอย่างเข้มงวด รวมทั้งกลไกในการส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกัน เพื่อมีส่วนร่วมในการรณรงค์ให้ความรู้ต่อต้านหรือชี้เบาะแส ด้านแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้กำหนดแผนย่อยด้านการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ มุ่งการพัฒนาและปรับพฤติกรรม “คน” ทุกกลุ่มในสังคม โดยเน้นการปลูกฝังและหล่อหลอมให้มีจิตสำนึก และพฤติกรรมยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งการสร้างวัฒนธรรมต้านทุจริต รู้จักแยกแยะเรื่องส่วนตัวออกจากประโยชน์ส่วนรวม ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการมีส่วนร่วม เป็นเครือข่ายแจ้งเบาะแสการทุจริตในทุกภาคส่วนของสังคมซึ่งสอดคล้องกับการจัดทำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

            นับเป็นโครงการสำคัญที่เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและแจ้งข่าวสารเพื่อป้องกันการทุจริตต่อไป

        ….. 

  • ปัญญา แพงเหล่า/รายงาน

       5 เมษายน 2568