มท.1 ดันหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทยสู่รัฐบาลดิจิทัล เผยกรมที่ดินเปิดบริการใหม่หลายรายการ มีสำนักงานที่ดินออนไลน์ 8 จ.
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานภายใต้กระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับการบริการประชาชนแบบ One Stop Service มุ่งสู่รัฐบาลดิจิทัล นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาสนับสนุนเพื่อเพิ่มความสะดวก ลดค่าใช้จ่ายให้กับทั้งพี่น้องประชาชน และภาคธุรกิจ ทำให้ตอนนี้หน่วยงานต่างๆ มีการปรับปรุงการทำงาน เปิดบริการใหม่และมีแผนจะขยายบริการที่สะดวกสบายให้กว้างขวางขึ้น
โดยกรมที่ดิน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ต้องติดต่อกับประชาชนจำนวนมากและใกล้ชิด ได้มีบริการใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ขยายบริการการจดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์ในจังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดที่ 8 ต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ดำเนินการแล้ว 7 จังหวัดประกอบด้วย กรุงเทพฯ อุบลราชธานี หนองคาย บึงกาฬ เชียงใหม่ สงขลา และสิงห์บุรี ครอบคลุม 60 แห่ง ทำให้รวมแล้วปัจจุบันมีสำนักงานที่ดินแบบออนไลน์ใน 8 จังหวัดแล้ว 75 แห่ง
“ท่าน มท.1 ได้ติดตามและเห็นว่าการที่หน่วยงานได้นำระบบออนไลน์เข้ามาสนับสนุนการให้บริการได้เพิ่มความสะดวกให้ประชาชนอย่างมาก เช่นกรณีสำนักงานที่ดินออนไลน์ได้ช่วยลดระยะเวลาในการทำนิติกรรมที่สำนักงานลงกว่า 50% ท่านจึงให้กรมที่ดินเร่งขยายบริการลักษณะเดียวกันนี้ให้ครอบคลุมทั่วประเทศให้เร็วที่สุด เพราะนอกจากจะเพิ่มความสะดวกให้ประชาชนแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนให้อันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ หรือ Ease of Doing Business ของประเทศในภาพรวมด้วย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การที่นายอนุทิน ได้ให้นโยบายขับเคลื่อนการทำงานให้มุ่งสู่รัฐบาลดิจิทัล ทำให้หน่วยงานเห็นเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน ซึ่งกรณีของกรมที่ดิน นอกจากบริการสำนักงานที่ดินออนไลน์แล้ว ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการนำระบบดิจิทัลเข้ามาพัฒนาระบบสืบค้นอาคารชุด ห้องชุด (CondoMaps) ขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ผู้ประกอบการ ที่ถือครองห้องชุดสามารถสืบค้นข้อมูลอาคารชุด ห้องชุด ที่ระบบสามารถแสดงตำแหน่งที่ตั้งอาคารชุด ห้องชุด ในรูปแบบภูมิสารสนเทศ 3 มิติ มองเห็นทัศนียภาพเสมือนจริง ซึ่งปัจจุบันกรมที่ดินมีชุดข้อมูล CondoMaps อยู่จำนวน 180,000 ยูนิต ในพื้นที่กรุงเทพฯ และกำลังนำเข้าข้อมูลอีก 480,000 ยูนิต เมื่อดำเนินการเสร็จจะมีฐานข้อมูลให้ประชาชนสืบค้นรวม 660,000 ยูนิต
ทั้งนี้ การพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการการใช้ประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่กระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่องนี้ จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ภาคเอกชนสามารถยอดทางด้านธุรกิจจากระบบของหน่วยงานรัฐ ยกระดับเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศได้.
Cr.ทำเนียบรัฐบาล