29 มิ.ย. 2567 เช้าวันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ร้อยเอกธรรมมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างแยกต่างระดับคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการจราจรจากความหนาแน่นและปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นพร้อมทั้งเป็นการลดการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และเป็นการเพิ่มศักยภาพของพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ในการรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว โดยมีหัวหน้าส่วนราชการภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

            สำหรับโครงการก่อสร้างแยกต่างระดับคำน้ำแซบ อยู่บริเวณทางแยกจุดตัดทางหลวงหมายเลข 231 กับทางหลวงหมายเลข 226 ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุม 2 ตำบล ได้แก่ตำบลคำน้ำแซบและตำบลโนนผึ้ง อยู่ในเขตอำเภอวารินชำราบ โดยกำหนดรูปแบบทางแยกต่างระดับของแยกคำน้ำแซบ ออกแบบเป็นแบบอุโมงค์ขนาด 2 ช่องจราจร ต่อทิศทางบนทางหลวงหมายเลข 231 ลอดทางหลวงหมายเลข 226 ควบคุมด้วยระบบสัญญาณไฟจราจร นอกจากนี้ยังมีสะพานยกระดับความกว้างรวม 2 ช่องจราจร สวนเลนบนทางหลวงหมายเลข 226 เพื่อเน้นการองรับปริมาณจราจร บนทางหลวงหมายเลข 231 เป็นหลักเพราะมีปริมาณการจราจรที่สูงที่สุด โดยโครงการใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวน 1,050 ล้านบาท ใช้ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2568 -2570 หลังจากแล้วเสร็จจะช่วยให้การสัญจรมีความสะดวกรวดเร็ว มีความปลอดภัยยิ่งขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางและการขนส่งสินค้าส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสนับสนุนโครงการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศได้อย่างยั่งยืน

            จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปยังศาลาประชาคมบ้านผึ้งตก ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ เพื่อพบปะประชาชนและรับฟังปัญหาในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาการเกิดอุทกภัย โดยเฉพาะที่ลำห้วยน้ำจาง เป็นลำห้วยขนาดเล็กกว้าง 8 เมตร ยาว 6 กิโลเมตร  ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาตื้นเขินในช่วงฤดูแล้ง ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ และในฤดูน้ำหลากจะมีน้ำไหลบ่าจากห้วยลำผับ ที่ไหลมาจากอำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบางปี จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อเตรียมการป้องกันการเกิดอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งกรมชลประทานและกรมพัฒนาที่ดิน โดยหน่วยงานในพื้นที่ได้แก่ โครงการชลประทานอุบลราชธานี และสถานีพัฒนาที่ดินอุบลราชธานี ได้ร่วมกันจัดทำแผนงาน/โครงการ เพื่อขุดลอกลำห้วยจัดทำเป็นแก้มลิง ฝ่ายกักเก็บน้ำ พร้อมระบบกระจายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยวันนี้ จะเสนอโครงการเพิ่มเติม จำนวน 16 แห่ง งบประมาณ 410 ล้านบาท

            นอกจากนี้ ยังได้มอบโคกระบือตามแนวพรนะราชดำริ จำนวน 60 ตัว 1,680,000 บาท และปลาพันธ์ปลา ตามโครงการช่วยเหลือด้านการประมง เพื่อสร้างแหล่งอาหารโปรตีนให้เกษตรกร จำนวน 1,200 ครัวเรือน.