รมว.ยุติธรรม เปิดปฏิบัติการลับล่าเครือข่ายพนันออนไลน์ บัญชีม้า ขยายผลสินบน 40 ล้าน

17 ตุลาคม 2568 จากกรณีที่นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่าได้รับการติดต่อเสนอสินบนกว่า 40 ล้านบาท เพื่อให้ยุติการปราบปรามเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และพนันออนไลน์ ล่าสุด กระทรวงยุติธรรม โดย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเชิงลับ จนนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายอาชญากรรมรายใหญ่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งพบความเชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างประเทศทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
รัฐบาลยืนยันนโยบายเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและสร้างความปลอดภัยในสังคมดิจิทัล
- ปฏิบัติการทลายเว็บพนันออนไลน์ครั้งใหญ่
พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ “ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์” ณ อาคารกระทรวงยุติธรรม โดย DSI และตำรวจไซเบอร์สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 52 ราย จากหลายเครือข่ายใหญ่ทั่วประเทศ มีเงินหมุนเวียนรวมกันกว่า 17,200 ล้านบาทต่อปี
- กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินคดีกับเครือข่าย gts89.com และ gtb89.com เงินหมุนเวียนกว่า 2,000 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 3 ราย
- ตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ดำเนินคดีรวม 49 ราย จากหลายเครือข่ายหลัก ได้แก่
1. APP.789HENG – เครือข่ายใหญ่ เงินหมุนเวียนกว่า 14,400 ล้านบาทต่อปี ตรวจค้นพร้อมกัน 11 จุดในจังหวัดเชียงใหม่ สระแก้ว จันทบุรี และชลบุรี จับกุมได้ 15 ราย
2. SEXYBACCARAT4 – เงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาทต่อปี ตรวจค้น 4 จุดในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จับกุมได้ 8 ราย
3. HUAYRICH (หวยริช) – เงินหมุนเวียนกว่า 120 ล้านบาทต่อปี ตรวจค้น 2 จุดในจังหวัดเชียงราย จับกุมได้ 3 ราย
4. MUNGME168 – เงินหมุนเวียนกว่า 70 ล้านบาทต่อปี จับกุมได้ 2 ราย
5. LOT1669 – เงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทต่อปี จับกุมได้ 3 ราย
6. เครือข่ายกดเงินบัญชีม้า – เชื่อมโยงหลายเว็บไซต์ เช่น BACCARAT, GAME16, SEXXYBACCARAT, GOATHUB เงินหมุนเวียนระดับหลักร้อยล้าน จับกุมได้ 2 ราย
7. คดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 16 ราย
พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลว่าเครือข่ายเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับกรณีสินบน 40 ล้านบาทตามที่นายไชยชนกเปิดเผยหรือไม่ ซึ่งได้มอบหมายให้กองปราบปรามดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด
- ป.ป.ส. เดินหน้าปฏิบัติการ “NO Chemical No Drugs” สกัดยาเสพติดต้นทาง
ในวันเดียวกัน พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานสารเคมีในจังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้นโยบายเชิงรุก “NO Chemical No Drugs” เพื่อป้องกันการนำสารเคมีไปใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติด
จากการตรวจสอบ พบว่าโรงงานดังกล่าวไม่ได้รายงานการนำเข้า–ส่งออกสารเคมีควบคุมตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงอายัด โซเดียมคาร์บอเนต 19 ตัน และ แอมโมเนียมคลอไรด์ 4 ตัน เป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้บริษัทนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจง
ข้อมูลจาก ป.ป.ส. ระบุว่า สารเคมีที่ถูกอายัดสามารถนำไปผลิตเฮโรอีนได้มากกว่า 4,600 กิโลกรัม หรือหากใช้ผลิต ยาบ้า (เมทแอมเฟตามีน) อาจได้มากกว่า 250 ล้านเม็ด จึงถือเป็นการ “ตัดวงจรการผลิตยาเสพติดตั้งแต่ต้นทาง” ที่จะส่งผลกระทบต่อเครือข่ายยาเสพติดขนาดใหญ่ในภูมิภาค
- เดินหน้าจัดระเบียบร้านจำหน่ายใบกระท่อมทั่วประเทศ
ภายใต้การบังคับใช้ ประกาศกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสถานที่และลักษณะต้องห้ามในการขายใบกระท่อม พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2568 ได้กำหนดห้ามจำหน่ายใบกระท่อมหรือน้ำต้มใบกระท่อมในระยะ 1,000 เมตรจากสถานศึกษา และห้ามเร่ขายหรือขายแบบแผงลอย ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท
สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เปิดปฏิบัติการตรวจสอบทั่วประเทศ พบการกระทำผิดในหลายพื้นที่ เช่น
- จังหวัดสงขลา : ตรวจพบร้าน “ราชาใบกระท่อม” ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาและมหาวิทยาลัยทักษิณ จำหน่ายทั้งใบกระท่อม ยาแก้ไอ และกัญชา เจ้าหน้าที่จับกุมนายสุเมธ ผู้ขาย ส่งดำเนินคดีอาญา
- จังหวัดปทุมธานี : พบร้านกระท่อมผิดกฎหมาย 3 ร้าน ตั้งแผงลอยริมถนน ใกล้สถานศึกษา และไม่ติดป้ายเตือนตามกฎหมาย
- จังหวัดลำพูน : ตรวจพบร้านแผงลอย 2 แห่ง จำหน่ายใบและน้ำต้มกระท่อมริมทาง
เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาโทษปรับเป็นพินัย พร้อมสั่งการให้ทุกพื้นที่ดำเนินการเข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ร้านค้าเหล่านี้กลายเป็นแหล่งมั่วสุมหรือเชื่อมโยงกับการกระทำผิดอื่น
- รัฐบาลเดินหน้าต่อเนื่อง ปราบอาชญากรรม–ยาเสพติด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
พล.ต.ท.รุทธพล เน้นย้ำว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างจริงจังในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์และยาเสพติดทุกมิติ โดยเฉพาะการตัดวงจรตั้งแต่ต้นทาง พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นพฤติการณ์ต้องสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 “ที่พึ่งทุกปัญหายาเสพติด”