รมว.ยุติธรรม เปิดปฏิบัติการลับล่าเครือข่ายพนันออนไลน์ บัญชีม้า ขยายผลสินบน 40 ล้าน

   เมื่อ : 18 ต.ค. 2568

            17 ตุลาคม 2568 จากกรณีที่นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่าได้รับการติดต่อเสนอสินบนกว่า 40 ล้านบาท เพื่อให้ยุติการปราบปรามเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และพนันออนไลน์ ล่าสุด กระทรวงยุติธรรม โดย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเชิงลับ จนนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายอาชญากรรมรายใหญ่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งพบความเชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างประเทศทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

            รัฐบาลยืนยันนโยบายเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและสร้างความปลอดภัยในสังคมดิจิทัล

 

  • ปฏิบัติการทลายเว็บพนันออนไลน์ครั้งใหญ่

            พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ “ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์” ณ อาคารกระทรวงยุติธรรม โดย DSI และตำรวจไซเบอร์สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 52 ราย จากหลายเครือข่ายใหญ่ทั่วประเทศ มีเงินหมุนเวียนรวมกันกว่า 17,200 ล้านบาทต่อปี

            - กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินคดีกับเครือข่าย gts89.com และ gtb89.com เงินหมุนเวียนกว่า 2,000 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 3 ราย

            - ตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ดำเนินคดีรวม 49 ราย จากหลายเครือข่ายหลัก ได้แก่

1. APP.789HENG – เครือข่ายใหญ่ เงินหมุนเวียนกว่า 14,400 ล้านบาทต่อปี ตรวจค้นพร้อมกัน 11 จุดในจังหวัดเชียงใหม่ สระแก้ว จันทบุรี และชลบุรี จับกุมได้ 15 ราย

2. SEXYBACCARAT4 – เงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาทต่อปี ตรวจค้น 4 จุดในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จับกุมได้ 8 ราย

3. HUAYRICH (หวยริช) – เงินหมุนเวียนกว่า 120 ล้านบาทต่อปี ตรวจค้น 2 จุดในจังหวัดเชียงราย จับกุมได้ 3 ราย

4. MUNGME168 – เงินหมุนเวียนกว่า 70 ล้านบาทต่อปี จับกุมได้ 2 ราย

5. LOT1669 – เงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทต่อปี จับกุมได้ 3 ราย

6. เครือข่ายกดเงินบัญชีม้า – เชื่อมโยงหลายเว็บไซต์ เช่น BACCARAT, GAME16, SEXXYBACCARAT, GOATHUB เงินหมุนเวียนระดับหลักร้อยล้าน จับกุมได้ 2 ราย

7. คดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 16 ราย

            พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลว่าเครือข่ายเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับกรณีสินบน 40 ล้านบาทตามที่นายไชยชนกเปิดเผยหรือไม่ ซึ่งได้มอบหมายให้กองปราบปรามดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด

 

  • ป.ป.ส. เดินหน้าปฏิบัติการ “NO Chemical No Drugs” สกัดยาเสพติดต้นทาง

            ในวันเดียวกัน พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานสารเคมีในจังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้นโยบายเชิงรุก “NO Chemical No Drugs” เพื่อป้องกันการนำสารเคมีไปใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติด

            จากการตรวจสอบ พบว่าโรงงานดังกล่าวไม่ได้รายงานการนำเข้า–ส่งออกสารเคมีควบคุมตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงอายัด โซเดียมคาร์บอเนต 19 ตัน และ แอมโมเนียมคลอไรด์ 4 ตัน เป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้บริษัทนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจง

            ข้อมูลจาก ป.ป.ส. ระบุว่า สารเคมีที่ถูกอายัดสามารถนำไปผลิตเฮโรอีนได้มากกว่า 4,600 กิโลกรัม หรือหากใช้ผลิต ยาบ้า (เมทแอมเฟตามีน) อาจได้มากกว่า 250 ล้านเม็ด จึงถือเป็นการ “ตัดวงจรการผลิตยาเสพติดตั้งแต่ต้นทาง” ที่จะส่งผลกระทบต่อเครือข่ายยาเสพติดขนาดใหญ่ในภูมิภาค

 

  • เดินหน้าจัดระเบียบร้านจำหน่ายใบกระท่อมทั่วประเทศ

            ภายใต้การบังคับใช้ ประกาศกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสถานที่และลักษณะต้องห้ามในการขายใบกระท่อม พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2568 ได้กำหนดห้ามจำหน่ายใบกระท่อมหรือน้ำต้มใบกระท่อมในระยะ 1,000 เมตรจากสถานศึกษา และห้ามเร่ขายหรือขายแบบแผงลอย ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท

            สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เปิดปฏิบัติการตรวจสอบทั่วประเทศ พบการกระทำผิดในหลายพื้นที่ เช่น

            - จังหวัดสงขลา : ตรวจพบร้าน “ราชาใบกระท่อม” ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาและมหาวิทยาลัยทักษิณ จำหน่ายทั้งใบกระท่อม ยาแก้ไอ และกัญชา เจ้าหน้าที่จับกุมนายสุเมธ ผู้ขาย ส่งดำเนินคดีอาญา

            - จังหวัดปทุมธานี : พบร้านกระท่อมผิดกฎหมาย 3 ร้าน ตั้งแผงลอยริมถนน ใกล้สถานศึกษา และไม่ติดป้ายเตือนตามกฎหมาย

            - จังหวัดลำพูน : ตรวจพบร้านแผงลอย 2 แห่ง จำหน่ายใบและน้ำต้มกระท่อมริมทาง

            เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาโทษปรับเป็นพินัย พร้อมสั่งการให้ทุกพื้นที่ดำเนินการเข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ร้านค้าเหล่านี้กลายเป็นแหล่งมั่วสุมหรือเชื่อมโยงกับการกระทำผิดอื่น

 

  • รัฐบาลเดินหน้าต่อเนื่อง ปราบอาชญากรรม–ยาเสพติด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

            พล.ต.ท.รุทธพล เน้นย้ำว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างจริงจังในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์และยาเสพติดทุกมิติ โดยเฉพาะการตัดวงจรตั้งแต่ต้นทาง พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นพฤติการณ์ต้องสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 “ที่พึ่งทุกปัญหายาเสพติด”