คนดี สังคมดี เปิดใจ “น้ำฝน” คนอุดรฯ พลเมืองดีเก็บเงินแสนบาทคืนเจ้าของ ดิ้นรนสู้ชีวิตใช้เงินหมื่นซื้อรถ จยย.พ่วงเก็บขยะหารายได้

   เมื่อ : 14 มี.ค. 2568

            เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม หนุ่มเก็บของเก่าทำดี เก็บเงินแสนบาท คืนเจ้าของเงินที่ทำหล่นหาย และได้รับผลต่อแทนทันตา เมื่อเจ้าของเงินซึ่งเป็นเจ้าของลานรับซื้อยางพารา รับหนุ่มคนนี้เข้าทำงานจากอาชีพรับจ้างทั่วไปและเก็บขยะหารายได้

            ข่าวที่ฟังแล้วมีความปลื้มใจ เป็นเรื่องราวของนายบุญกอง มั่นเมืองปัก หรือ “น้ำฝน” อายุ 28 ปี ชาวอำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี หนุ่มพลเมืองดีคนนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ”น้ำฝน” ไปเก็บเงินสด 1 แสนบาทได้ที่ริมถนนกลางใหญ่-น้ำโสม พื้นที่อำเภอบ้านผือ แล้วนำไปให้ตำรวจ สภ.กลางใหญ่ ช่วยตามหาเจ้าของ 

            โดยระหว่างที่ตำรวจพา ”น้ำฝน” ไปชี้จุดที่เก็บเงินได้ ก็เป็นจังหวะที่ นางปิยะนุช ปราบคนชั่ว หรือ “เจ้วิ” เจ้าของลานรับซื้อยางพารา ได้ขับรถกระบะมาเพื่อตามหาเงินแสนบาทที่หล่นหายพอดี ซึ่งเงินดังกล่าว “เจ้วิ” บอกว่าได้มาจากการนำสร้อยคอทองคำไปจำนำที่ร้านทอง เพื่อจะนำไปจ่ายค่ายาง ตำรวจจึงได้เชิญตัวไปสอบสวนที่โรงพัก และเมื่อพิสูจน์ชัดเจนแล้ว และได้มอบเงินเป็นสินน้ำใจจำนวน 3,000 บาท ให้แก่ ”น้ำฝน” ด้วย

            นายบุญกอง “น้ำฝน” เปิดใจว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ถ้าไม่มีใครจ้างก็จะถีบจักรยานพ่วงข้างออกเก็บของเก่า ขยะ ซึ่งจะมีพ่อค้ามารวบรวมรับซื้อ 15 วัน/ครั้ง และจากการพูดคุย จึงได้ทราบว่า “นํ้าฝน” มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้นำเงินสดจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในเฟสที่ 1 “10,000บาท” ไปซื้อรถจักรยานพ่วงข้าง มาต่อทุนชีวิตสร้างรายได้ และนับเป็นความเมตตาเอื้ออาทรต่อกัน เจ้าของเงิน คือ นางวิไล “เจ๊วิ” อายุ 50 ปี เจ้าของกิจการลานรับซื้อยางพารา ได้ปรึกษากับสามี และนางปิยะนุช ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน ก็ตกลง รับ ”น้ำฝน” เข้าทำงานประจำ หลังจากที่ทราบว่ามีฐานะยากจนและอยู่กับยายอายุกว่า 70 ปี เพียงลำพัง เพื่อตอบแทนความดี จะได้มีอาชีพเลี้ยงยายที่แก่ชรา

            ”ยายสอนไว้แต่เด็กว่า เงิน สิ่งของมีค่าของคนอื่น ไม่ใช่ของเรา อย่าไปเอามาเป็นของเรา ผมไม่ได้นับเงินด้วยซ้ำไปว่ามีจำนวนเท่าไร แค่คิดคือจะเอาไปคืนให้เจ้าของเงินได้อย่างไร เพราะเขาคงต้องการใช้เงิน หรือมีความเดือดร้อน” น้ำฝน เปิดใจให้ฟัง

Cr.กรมประชาสัมพันธ์