“วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” แจงโอกาสและความท้าทายของการเติบโตของ 5 ชาติในข้อตกลง ACMECS

   เมื่อ : 18 ก.ย. 2567

            17 กันยายน 2567 ที่ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสินิกิตติ์ ในโอกาสครบ 60 ปีแห่งการก่อตั้ง สมาคมคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของวุฒิสภา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ ได้ตอบคำถามของพิธีกรดำเนินรายการ ดร.สุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เรื่องโอกาสและความท้าทายของการเติบโตของ 5 ชาติในข้อตกลง ACMECS หรือความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ซึ่งประกอบด้วยเมียนมาร์-ไทย-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม ว่า เจตจำนงเบื้องหลังของ ACMECS คือการพยายามช่วยลดความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาในอาเซียนตอนบน เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ทัดเทียมกัน แต่ในการเชื่อมโยงในปัจจุบันที่มนุษย์สร้างถนน สะพาน รางรถไฟ สายส่งกระแสไฟฟ้า และการค้าที่เชื่อมกันได้มากพอควรแล้ว ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมตลอดจนภัยพิบัติที่เกิดจากภาวะโลกร้อนและภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงก็เชื่อมทั้งภูมิภาคและลุ่มน้ำทั้งสามเข้าถึงกันอย่างมากด้วย สิ่งที่พึงเริ่มในรอบนี้คือการร่วมกันประกาศ ”ทศวรรษของการร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติ และร่วมกันหยุดการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน” โดยยกเรื่องฝุ่น น้ำ และการเพาะปลูกและการรักษาป่ามาเป็นประเด็นนำ

            ”..เมียนมาร์ ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม เคยเชื่อมเพื่อการค้า จนเร่งรัดการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืนใส่เข้าไปจนเกิดผลเสียหายกลับเข้าใส่ตัวเองกันถ้วนหน้า โลกร้อนทะเลอุ่นและการเหวี่ยงของภูมิอากาศนับแต่นี้ จะกระทบผู้คนในแถบนี้มาก แถมยังต้องเตรียมรับกับคลื่นมนุษย์จากเอเชียใต้และจีนใต้ ตลอดถึงจากหมู่เกาะแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดียอีกประปรายที่จะถูกทะเลท่วม ขาดน้ำจืด ต่างจะวิ่งเข้าหาดินแดน ”สุวรรณภูมิ” แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บนแผ่นทวีป ดังนั้นการร่วมกันค้นหา ”influencer” ที่ปัจจุบันสามารถเข้าถึงผู้ติดตามคนละนับล้านในภูมิภาค ให้ร่วมกันนำประชาชนและวัฒนธรรมการพัฒนาให้เข้าสู่ mode ความยั่งยืน และการปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ได้เปลี่ยนไปแล้ว..” นายวีระศักดิ์กล่าว

            อนึ่งงานเสวนาระดับชาติที่จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย TMA นี้ยังมีการจัดไปต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 16-19 กันยายนนี้ ที่ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ผู้สนใจเข้าร่วมสามารถไปลงทะเบียนเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ