ชาวสวนยางเฮ!!! ราคายางพุ่งทะลุ 80 บาท/กิโลกรัม สูงสุดในรอบ 41 เดือน

   เมื่อ : 09 มี.ค. 2567

            นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง กรณีราคายางพาราในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเวลา 41 เดือนที่ผ่านมา โดยราคาส่งออก ทะลุ 80 บาทต่อกิโลกรัมว่า ยางเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย ซึ่งมีพื้นที่ปลูกยางพารามากกว่า 25 ล้านไร่ ในอดีตราคายางพารา อยู่ที่ 3-4 กิโลกรัม 100 บาท แต่เมื่อรัฐบาลเข้ามาทำงาน และได้ประกาศไว้ว่าจะ เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร 3 เท่า ภายใน 4 ปี โดยรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการลักลอบนำเข้ายางเถื่อนอย่างมาก และต้องขอบคุณกองทัพบก กระทรวงการคลัง กรมศุลกากร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าอย่างเถื่อน 

            นอกจากนี้ ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว เรื่องจากนำเข้ายางพารา เนื่องจากมาเลเซียเป็นประเทศที่นำเข้ายางพารามากถึง 80% เพราะมีโรงงานผลิตถุงมือยาง ซึ่งตนเองได้บอกกับนายกฯ มาเลเซียว่าหากมีอะไรให้พูดคุยได้โดยตรง จะได้จัดส่งยางไปให้ ไม่จำเป็นต้องนำเข้าจากพม่าหรือลาว และผ่านประเทศไทย เพราะไม่แน่ชัดว่าจะไปถึงมาเลเซียจริงหรือไม่ หรือระหว่างทาง สินค้าจะถูกกระจายในประเทศไทย ดังนั้นทางที่ดีไม่ต้องเอาเข้ามาในประเทศ หากมีอะไรให้ติดต่อผ่านกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้กำชับนายภูมิธรรม เวชชัยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ให้ติดต่อประเทศมาเลเซียโดยด่วน หากมีความต้องการใช้ยางสูงไทยพร้อมที่จะส่งให้ได้ 

            นายกฯ เชื่อว่าราคายางจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รัฐบาลจะพยามดำเนินมาตรการให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นต่อไป เพราะมีเกษตรกรผู้ปลูกยางอยู่ทั้งในภาคใต้ ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าราคายางจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนสำคัญเกิดจากหลายภาคส่วนที่ร่วมมือกันขับเคลื่อนเป็นหูเป็นตา โดยเฉพาะในการเข้มงวดตรวจสอบนำเข้าสินค้าเถื่อน โดยเฉพาะสินค้าหลักที่ไทยสามารถผลิตได้เองจะ ไม่จำเป็นต้องนำเข้ามาเพราะต้องดูแลเกษตรกรของไทยก่อน เน้นบริหารจัดการยางพาราอย่างรอบด้านเพื่อสร้างเสถียรภาพ เข้มงวดมาตรการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย

            กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคายางพาราในปัจจุบันที่ดีดตัวขึ้นสูงจากนโยบายการบริหารจัดการยางพาราของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย มุ่งเน้นการบริหารจัดการยางพาราอย่างรอบด้านเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับยางพารา และเข้มงวดมาตรการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย เพื่อลดผลกระทบด้านราคาที่เกษตรกรได้รับ ส่งผลให้ราคายางในประเทศขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 เป็นต้นมา โดยราคายางที่ซื้อขายผ่านสำนักงานตลาดกลางยางพาราของ กยท. ทะลุ 80 บาท โดยราคาซื้อขายยางแผ่นรมควัน อยู่ที่ 81.09 บาท/กก. ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดในรอบ 41 เดือน อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคายังคงอยู่ในช่วงที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อไป

            เข้มงวดมาตรการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย

            ปัจจัยสนับสนุนที่ส่งผลให้ราคายางพาราพุ่งสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่กำชับสั่งการให้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำกับดูแล ตรวจเข้มเรื่องการลักลอบนำเข้ายางพาราเถื่อน และไม่อนุญาตให้นำเข้ายางจากต่างประเทศ ส่งออกไปยังประเทศอื่น รวมไปถึงความต้องการใช้ยางในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของโลกที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ยอดขายรถยนต์ของยุโรปในเดือนมกราคมโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.3% ในขณะที่จีนผลิตรถยนต์และส่งออกในปี 66 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4.91 ล้านคัน คิดเป็น 57.9% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC  ส่งผลให้ยังสามารถตรึงราคาน้ำมันไว้ในระดับที่สูง ต้นทุนการผลิตยางสังเคราะห์จึงสูงขึ้น ช่วยเพิ่มความต้องการใช้ยางธรรมชาติในภาคการผลิตให้มากขึ้น.