วันที่ 5 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันนักข่าว หรือวันสื่อสารมวลชนแห่งชาติ ดังนั้น ผู้ที่ประกอบอาชีพหนังสือพิมพ์และสื่อทุกสาขา จะให้ความสำคัญจึงร่วมกันงานวันนักข่าว เพื่อสืบสานอุดมการณ์และจรรยาบรรณของสื่อมวลชน และจัดกิจกรรม และบำเพ็ญประโยชน์และเป็นพบปะสังสรรค์ของมวลสมาชิก 

            ในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี มีสื่อมวลชนหลากหลาย ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ โดยมีสมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี สมาคมผู้สื่อข่าวอุบลราชธานี และมูลนิธิสื่อสร้างสุข ราชธานีเคเบิลทีวี รวมไปถึง สื่อมวลชนในภาครัฐ เช่น สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รวมทั้ง สื่ออิสระอีกหลายช่องทาง

            ก่อนปี 2557 สื่อมวลชนอุบลราชธานี จะแยกกันจัดงานวันนักข่าว ต่างคนต่างจัดทำให้ไม่เป็นเอกภาพ ต่อมาในปี 2557 สมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี และสมาคมผู้สื่อข่าวอุบลราชธานี ได้ร่วมกันจัดงานเป็นหนึ่งเดียว และได้รับการสนับสนุนจากทุกส่วน และจัดงานต่อเนื่องมาจนถึง ปี 2563 ประเทศไทยประสบภัยโรคระบาด 2019 หรือ โควิด19 จึงงดการจัดงาน

            ในปี 2567 ครบรอบ 10 ปี ของการรวมสื่อมวลชนจัดงาน วันนักข่าว และมีภาคีเครือข่ายร่วมจัดงาน คือ มูลนิธิสื่อสร้างสุข ราชธานีเคเบิลทีวี สื่อวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ นับเป็นการรวมพลังของสื่อมวลชนอุบลราชธานี ที่เป็นหนึ่งเดียว โดยจัดกิจกรรมสำคัญ คือ 

            ภาคเช้า : ที่วัดกลาง อ.เมือง มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับสื่อมวลชนผู้ล่วงลับไปแล้ว ที่วัดกลาง และพิธีปล่อยปลาลงแม่น้ำมูลเพื่อการส่งเสริมและอนุรักษ์ปลาพื้นเมือง และกิจกรรมแข่งขันกีฬาเพื่อความสัมพันธ์

            ส่วนภาคกลางคืน : จัดงานที่โรงแรมสุนีย์แกรนด์ อ.เมือง มีการจัดงานพบปะสังสรรค์สื่อมวลชนอุบลราชธานี ทุกสาขา โดยได้รับเกียรติจาก นายสมเพชร สร้อยสระคู รอง ผวจ. อุบลราชธานี เป็นประธาน กล่าวพบปะสื่อมวลชน และมีนายชลธิษ จันทร์สิงห์ นายกสมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี นายสุนทร ชูราษี นายกสมาคมผู้สื่อข่าวอุบลราชธานี นายนพภา พันธเพ็ง ประธานมูลนิธิสื่อสร้างสุข นายดุสิต สิงห์คีรี ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 นางมยุรี สงวนนาม ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี และหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมงานพบปะสังสรรค์

            ด้วยบทบาทและภารกิจรับผิดชอบที่สำคัญของสื่อมวลชน ที่จะต้องรายงานข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีวันหยุดพัก และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ต่างๆด้วยโดยยึดหลักการสำคัญ คือ รักษาภาพพจน์ ลดความขัดแย้ง แถลงผลงาน ให้สาธารณชนยอมรับและพึงพอใจ อันจะส่งผลต่อการพัฒนาสังคมประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป.

             ………….

• นายปัญญา แพงเหล่า/รายงาน

             5 มีนาคม 2567