ผู้ว่าฯ อุบล เผยฝ่ายปกครองเดชอุดม สนธิกำลังหน่วยงานความมั่นคง ตรวจสอบกรณีกลุ่มนายทุนจีนสีเทาลักลอบแปรรูปไม้

   เมื่อ : 05 มี.ค. 2567

          3 มีนาคม 2567 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ที่เน้นย้ำในการจัดระเบียบสังคม และปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเดชอุดม ได้ทำการตรวจอายัดไม้ จำนวน 2,297 ต้น และจับกุมแรงงานต่างด้าว 30 คน ที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน โดยมีนายสะอาด วงรักษ์ นายอำเภอเดชอุดม นายราเยส ราย ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายงานความมั่นคงอำเภอเดชอุดม สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอเดชอุดมที่ 5 ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเดชอุดม และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหางานอุบลราชธานี ร่วมกันบูรณาการปฏิบัติการในครั้งนี้

            นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า การดำเนินการตรวจสอบและจับกุมในครั้งนี้ มีที่มาจากการได้รับรายงานจากสายลับว่า มีกลุ่มนายทุนจีนได้นำไม้ลำต้นขนาดใหญ่จำนวนมากเข้ามาในเขตพื้นที่ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ทางชุดปฏิบัติการพิเศษจึงได้รายงานให้จังหวัดทราบ ตนจึงได้สั่งการให้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยผลจากการตรวจสอบของชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเดชอุดมพบว่า มีการลักลอบแปรรูปไม้ประดู่โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ทำการตรวจอายัดไม้ จำนวน 2,297 ต้น และจับกุมแรงงานต่างด้าว 30 คน ที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบ และจัดทำบันทึกจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเดชอุดม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และจะขยายผลการจับกุม เพื่อนำตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างไม่มีละเว้น

            นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวต่ออีกว่า ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าพุ่งเป้า Re X-Ray ในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย อันจะทำให้สังคมมีความสงบเรียบร้อย เกิดสวัสดิภาพ พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ต้องหวาดระแวง หรือเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ 

            “ซึ่งที่ผ่านจังหวัดอุบลราชธานีได้บูรณาการทุกภาคส่วน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย เพื่อให้ทุกคนในสังคมได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อย่างไรก็ตามต้องขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตา ระแวดระวังบ้านเมืองของเรา หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง โดยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เเจ้งเบาะเเสจะถูกคุ้มครองและปกปิดเป็นความลับ ป้องกันไม่ให้พลเมืองดีต้องได้รับภัยจากการเเจ้งเบาะเเสดังกล่าว” นายศุภศิษย์ฯ กล่าวทิ้งท้าย.