นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครพนม สกลนคร อุดรธานี พร้อมพบปะประชาชน 17-19 ก.พ.นี้

   เมื่อ : 16 ก.พ. 2567

          15 กุมภาพันธ์ 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนครพนม สกลนคร และอุดรธานี ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อตรวจติดตามโครงการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล เช่น ด้านการท่องเที่ยว สถานการณ์การส่งออกและพื้นที่ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ ด่านศุลากรจังหวัดนครพนม ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องการทำประมงน้ำจืด และการบริหารจัดการน้ำ เยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบในการแก้ไขปัญหาคุณภาพดิน การจัดการแหล่งน้ำ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร การพัฒนาจังหวัดสกลนครเป็นเมืองนวัตกรรมการเกษตร นโยบาย 30 บาทรักษาได้ทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” จังหวัดอุดรธานี พร้อมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของทั้งสามจังหวัด และพบปะประชาชนในพื้นที่

          โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ร่วมคณะตรวจราชการ โดยนายกรัฐมนตรีมีภารกิจ ดังนี้

          วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ในช่วงเช้า เวลาประมาณ 09.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนครพนม ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม เพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยว ณ หมู่บ้านมิตรภาพไทย - เวียดนาม อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ หมู่บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่ด่านศุลกากรจังหวัดนครพนม สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 3 ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม เพื่อติดตามสถานการณ์การส่งออกและพื้นที่ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) โดยจะมีการติดตามและพิจารณาในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของด่านศุลกากรฯ และการพัฒนาพื้นที่ อาทิ สถานการณ์การนำเข้า - ส่งออกสินค้าผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม และถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน - ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 - ถนนเชื่อมทางหลวงแผ่นดินหมายเลย 212 อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

           สำหรับในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะประชุมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของจังหวัดนครพนม ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยนครพนม ต.มะขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม โดยจะได้พิจารณาแผนงานและโครงการที่จังหวัดนครพนมขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ได้แก่ โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและการบริหารจัดการน้ำ การยกระดับเมืองรองเป็นเมืองหลัก Medical & Wellness Hub การเที่ยวชุมชน ยลวิถี ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าเรือ อำเภอนาหว้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP พร้อมกับเยี่ยมชมนิทรรศการของดีประจำ 12 อำเภอ ภายใต้ 3MUST (Eat Travel Visit) ณ บริเวณ ชั้น 1 หอประชุมมหาวิทยาลัยนครพนม ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อร่วมงานนมัสการพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และพบประชาชน แล้วออกเดินทางไป จ.สกลนคร โดยในช่วงเย็น นายกรัฐมนตรีจะพบประชาชน ณ ตลาดเทศบาลนครสกลนคร ต.ดงมะไฟ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร

          โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปสักการะพระธาตุเชิงชุม ณ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะร่วมหารือประเด็นความเดือดร้อนเรื่องการทำประมงน้ำจืดและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่หนองหาร ณ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เสร็จแล้วจะเดินทางต่อไปยังวัดถ้ำผาแด่น ต.ดงมะไฟ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร เพื่อพูดคุยประเด็นการพัฒนาจังหวัดสกลนครเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนา ณ วัดถ้ำผาแด่น ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร เพื่อเยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบในการแก้ไขปัญหาคุณภาพดิน การจัดการแหล่งน้ำ และประชุมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของจังหวัดสกลนคร โดยจะมีการพิจารณาประเด็นการพัฒนาที่สำคัญของจังหวัดสกลนคร อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และอาหาร (Gastronomy Tourisms) และการพัฒนาและยกระดับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ โดยการใช้นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

          ส่วนในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ผ้าย้อมคราม “วิชชาลัยดอนกอย วิถีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน” ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งบ้านดอนกอยเป็นชุมชนมีชื่อเสียงทางด้านมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมการทอผ้าของไทย โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าอย่างครบวงจร ซึ่งได้มีการพัฒนาลวดลาย ดีไซน์ที่ทันสมัย สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน จนกลายเป็นชุมชนต้นแบบของประเทศ โดยมีปัจจัยความสำเร็จ ได้แก่ พลังแห่งการรู้รักสามัคคีของชาวบ้านและผู้นำในการเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาหมู่บ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่โดดเด่นและหลากหลาย และการพัฒนาต่อยอดให้เหมาะสมกับภูมิสังคมและร่วมสมัย การบริหารจัดการตามหลักธรรมภิบาล และการบูรณาการขับเคลื่อนงานพัฒนาหมู่บ้าน ด้วยเครือข่ายพัฒนาชุมชน ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะพบปะประชาชน และติดตามนโยบาย 30 บาท รักษาได้ทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ณ โรงพยาบาลบ้านม่วง ต.ม่วง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะหารือประเด็นการพัฒนาจังหวัดสกลนครเป็นเมืองนวัตกรรมการเกษตร และชมผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตร จับคู่ความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและเกษตรกร ณ อ่างเก็บน้ำห้วยโทง ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ด้วย 

          โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในวันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ในช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีจะมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” และเยี่ยมชมนิทรรศการวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ ณ ที่ว่าการอำเภอหนองวัวซอ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี จากนั้นช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะประชุมหารือแผนพัฒนาของจังหวัดอุดรธานี โดยจะมีการพิจารณาประเด็นการพัฒนาที่สำคัญของจังหวัด อาทิ แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทะเลวัวแดง และการกำจัดวัชพืช การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดอุดรธานี การเตรียมการจัดงานพืชสวนโลก ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากุมภวาปี ต.เวียงคำ อ.กุมภาวาปี จ.อุดรธานี เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังโครงการเหมืองแร่โพแทช ต.หนองไผ่ อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี เพื่อพูดคุยแผนงานมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง และแผนการฟื้นฟูเหมืองแร่โพแทซ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 16.15 น. ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

          “การเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครพนม สกลนคร และอุดรธานี ครั้งนี้ของนายกฯ เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานด้านต่างๆ ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลและนายกฯ ให้ความสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนและบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย โดยนายกฯ ได้เน้นย้ำให้ความสำคัญในการดึงและใช้ศักยภาพด้านต่างๆ ที่แต่ละพื้นที่หรือจังหวัดมีอยู่ มาพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ระบบเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งด้านการเกษตร สถานที่ท่องเที่ยว ศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น ฯลฯ ตลอดจนการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับประชาชนทั้งการอุปโภคบริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม รวมถึงการดูแลระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม เพื่อการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว.

Cr.ทำเนียบรัฐบาล