29 ตุลาคม 2566 เวลา 18.00 น. ที่วัดสระเกษ ตำบลบุ่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ นายเสนีย์ ส้มเขียวหวาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ นำหัวหน้าส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชนจังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมประกอบพิธีเวียนเทียนถวายบูชารวงข้าวในคีรีวงกต และประเพณีออกพรรษาประจำปี พ.ศ. 2566 โดยมี พระครูสถิตบุญญานุกูล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองอำนาจเจริญและเจ้าอาวาสวัดสระเกษ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำกล่าวคำถวายดอกไม้ ธูปเทียน รวงข้าวและนำเวียนเทียนภายในคีรีวงกต พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดอำนาจเจริญร่วมพิธีในวันนี้ เพื่อสืบสานต่อยอดประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของบรรพบุรุษที่เริ่มเลือนหายไป ซึ่งวัดสระเกษได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันออกพรรษา

          สำหรับพิธีเวียนเทียนบูชารวงข้าวในคีรีวงกตและประเพณีออกพรรษาได้กำหนดจัดขึ้นตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นประเพณีที่ถูกถือปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยมีพิธีการสักการบูชา มีการนำข้าวที่ตั้งท้อง ดอกดาวเรือง เทียนธูปมาเป็นเครื่องบูชา โดยจะต้องผ่านเขาคีรีวงกต ซึ่งเป็นทางคดเคี้ยวสลับซับซ้อน ที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้นในวันออกพรรษา โดยถือเอาคติแห่งเวสสันดรชาดกในครั้งที่พระเวสสันดรโพธิสัตว์ ได้บริจาคช้างคู่บ้านคู่เมืองเป็นทานก่อให้ชาวเมืองสีพีไม่พอใจ ได้นำความขึ้นกราบทูลพระเจ้าสัญชัย เพื่อให้ขับไล่พระเวสสันดรโพธิสัตว์ออกไปจากบ้านเมือง พระเวสสันดรโพธิสัตว์จึงออกไปพำนักยังเขาคีรีวงกตเพื่อบำเพ็ญธรรม พร้อมด้วยพระนางมัทรี ชาลีราชกุมาร และกัณหาชินาราชกุมารี

            พุทธศาสนิกชนจึงได้ยึดคติดังกล่าวขึ้น เป็นกุศโลบายในการบำเพ็ญกุศล มุ่งเน้นในการดำรงชีวิตอย่างมีสติ ความเพียรและการเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม รำลึกถึงพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นนิจ นับเป็นพุทธบูชาอย่างยิ่งยวด นอกจากนี้การถวายรวงข้าวเป็นพุทธบูชายังเป็นการระลึกถึงคุณพระแม่โพสพอีกด้วยประการหนึ่ง ด้วยเหตุนี้พุทธศาสนิกชนได้เล็งเห็นคุณค่าความสำคัญของพิธีดังกล่าว จึงได้ยึดถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบต่อกันมาอย่างยาวนานจวบจนถึงปัจจุบัน.

Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ