ครูที่ไม่มีใครแต่งตั้ง

“ถ้าครูต้องมีใบประกอบวิชาชีพ…ผมคงไม่มีวันเป็นครูได้”
แต่ตลอดชีวิตราชการของผมกลับทำหน้าที่คล้ายครูมากกว่าสิ่งใด
ครู…ที่ไม่มีใครแต่งตั้ง
ไม่มีคำสั่งกระทรวง
ไม่มีห้องเรียน
ไม่มีสมุดพก
แต่มีเวที เวลาประชุม มีชุมชน มีเวทีหน้าเสาธง
และที่สำคัญ…มีหัวใจที่อยากสื่อสารให้คนเข้าใจแล้วเปลี่ยนแปลง
⸻
ผู้นำที่ต้องเป็นครู โดยไม่ต้องชูใบประกอบฯ
การบริหารอำเภอหรือจังหวัดนั้น ไม่ได้วัดกันที่การออกคำสั่ง
แต่วัดกันที่ “การทำให้ทุกคนเดินไปในทางเดียวกันได้”
และนั่น…ต้องใช้ “ทักษะครู” อย่างยิ่ง
ในวันประชุมหัวหน้าส่วนราชการ บางทีผมรู้สึกเหมือนยืนอยู่หน้าห้องเรียนมัธยม
มีทั้งนักเรียนที่ตั้งใจ มีทั้งคนง่วง มีทั้งคนลังเล และบางคนก็ไม่เห็นความจำเป็นของบทเรียนเลย
แต่หน้าที่ของผมไม่ใช่แค่พูดจบประชุม
หน้าที่ของผมคือ “ทำให้เขาเข้าใจและอยากลงมือทำ”
บางครั้ง…แผนยุทธศาสตร์จังหวัดซึ่งเขียนไว้ในกระดาษสิบกว่าหน้า
ต้องถูกย่อยเป็นภาษาที่ “ครูชุมชน” เข้าใจ
และเมื่อเขาเข้าใจ…เขาก็จะ “สอนต่อ” ได้เองโดยไม่ต้องรอใคร
นั่นคือการเป็น “ครูของครู”
ซึ่งไม่ได้สวมชุดครู
แต่อยู่ในชุดเครื่องแบบราชการธรรมดานี่เอง
⸻

ครูอนุบาล ครูประถม ครูมัธยม…ผมไม่ได้จบแบบนั้น แต่ผมเข้าใจ
ผมเคยยืนหน้าเสาธงกลางแดดกับครูอนุบาล
ที่ต้องเงยหน้าพูดให้เด็กฟังโดยไม่หวังว่าจะจำ
แต่หวังว่าเด็กจะ “รู้สึกได้” ว่านี่คือความอบอุ่นของโรงเรียน
ผมเคารพหัวใจแบบนั้น…เพราะรู้ว่าการสื่อสารที่ดี เริ่มจาก “ความรู้สึกปลอดภัย”
ผมเคยคุยกับครูประถมที่ต้องตัดกระดาษทำสื่อการสอนเอง เพราะงบไม่พอ
และบอกกับผู้นำท้องถิ่นว่า “พวกเขาไม่ขออะไรเลยนอกจากความเข้าใจ”
ผมจึงเรียนรู้ว่า “การบริหารที่ดี” คือการฟังให้ลึกกว่าคำพูด
และผมเคยขึ้นเวทีกลางงานแนะแนวกับครูมัธยม
พูดเรื่องอนาคตของเด็กที่ยังไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะมีข้าวเย็นกินหรือไม่
มันทำให้ผมไม่กล้าพูดคำว่า “พัฒนา” ถ้าไม่เข้าใจ “ต้นทุนชีวิต” ของเด็กเหล่านั้นจริงๆ
⸻
บทบาทที่ไม่มีในคู่มือ
ไม่มีคู่มือราชการเล่มใดเขียนว่า
“นายอำเภอควรใช้สำนวนอย่างไรเมื่อต้องพูดกับครูอนุบาล”
หรือ
“รองผู้ว่าฯ ควรปรับภาษายังไงให้ครูในพื้นที่ชายแดนเข้าใจแผนการศึกษาในระดับชาติ”
แต่ชีวิตจริงสอนผมว่า…
ผู้นำที่ดี ต้องเป็น “ครูในบริบทของตนเอง”
ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรพูด
เมื่อไรควรฟัง
และเมื่อไรควรยืนเฉยๆ แล้วให้คนอื่นพูด
การบริหารไม่ใช่การออกคำสั่ง
แต่คือการสื่อสาร
ให้คนเชื่อ ให้คนเข้าใจ และให้คนอยากลงมือ
⸻
ส่งท้ายบทนี้ด้วยคำถามที่ยังคงอยู่ในใจผม
ถ้าครูคือผู้เปลี่ยนชีวิตคนทีละคน…
แล้วผู้นำล่ะ?
จะเปลี่ยนทั้งระบบได้หรือไม่
ถ้าเขายังไม่รู้จัก “สอน” ให้คนเข้าใจ…
และวันนี้ ผมไม่กล้าบอกว่า “ผมเป็นครู”
แต่ผมภูมิใจที่เคยได้ “ทำหน้าที่ของครู”
แม้ไม่มีใครแต่งตั้ง
แม้ไม่มีสมุดพก
แต่มีหัวใจเต็มร้อย…ที่อยากเห็นบ้านเมืองดีขึ้น ด้วยพลังของคนที่เข้าใจร่วมกัน
⸻
- ฤทธิสรรค์ เทพพิทักษ์
อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัด / ปลัดจังหวัด / นายอำเภอ / คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
9 พฤษภาคม 2568
