อุบลฯ เตรียมรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระสารีริกธาตุของพระสารีบุตรพระโมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย

   เมื่อ : 15 พ.ย. 2566

            14 พฤศจิกายน 2566 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้นายกำพล สิริรัตตนนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมคณะทำงานคัดเลือกสถานที่สำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระสารีริกธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ณ จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับเมตตาจากพระราชธรรมสุธี เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี (ธ) เป็นที่ปรึกษา พร้อมด้วยวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ผอ.สำนักศิลปากรที่ 9 อุบลราชธานี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เทศบาลนครอุบลราชธานี ศึกษาธิการจังหวัดอุบลราชธานี ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมประชุมเตรียมการ

            ด้วยประเทศไทยได้ประสานความร่วมมือกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระสารีริกธาตุของพระสารีบุตรและพระมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดียมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย และอัญเชิญประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดกระบี่ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา 72 พรรษา รวมทั้งส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ เสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว พร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสาธารณรัฐอินเดีย ประเทศไทย และราชอาณาจักรกัมพูชา ผ่านมิติทางศาสนาและวัฒนธรรม ในช่วงเดือนธันวาคม 2566 ถึงมกราคม 2567 โดยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมธรรมยาตรา จากมหานทีคงคา สู่ลุ่มน้ำโขง ซึ่งหลังจบกิจกรรม ในประเทศไทยแล้ว จะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระสารีริกธาตุ ของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ไปยังราชอาณาจักรกัมพูชาต่อไป 

            โดยมติที่ประชุมได้คัดเลือกพระอุโบสถวัดมหาวนาราม เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระสารีริกธาตุของพระสารีบุตรพระโมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย เป็นระยะเวลา 7 วัน ซึ่งจะได้พิจารณาวันเวลาในการประดิษฐานให้ประชาชนได้ร่วมสักการะ ณ ท้องสนามหลวง จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดกระบี่ต่อไป.