4 พฤศจิกายน 2566 ที่ศูนย์คชศึกษา บ้าตากลาง หมู่บ้านช้าง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานพิธีทอดกฐินช้างใหญ่ หนึ่งเดียวในโลก ที่มีช้างร่วมขบวนแห่กฐินกว่า 80 เชือก ที่ศูนย์คชศึกษา และโครงการคชอาณาจักร อ.ท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยมี นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ น.ส. ผกามาศ เจริญพันธุ์ ส.ส. สุรินทร์ เขต 3 นายเสนีย์ จิตเกษม อดีต ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ชมรมสิงห์ดำ และแขกผู้มีเกียรติจากประเทศกัมพูชา ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้ รวมยอดองค์กฐินในครั้งนี้เป็นเงินกว่า 3,000,000 บาท

          โดยบรรยากาศภายในงานเป็นอย่างคึกคัก มีแขกผู้มีเกียรติ และประชาชนร่วมในงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านั้นจัดให้มีขบวนแห่กองกฐิน จำนวน 9 ขบวน ทั้งคนและช้างกว่า 80 เชือก ที่แต่งลวดลายอย่างสวยงาม และแขกผู้มีเกียรติทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา ร่วมนั่งช้างในขบวนแห่ในครั้งนี้ด้วย นำโดยขบวนช้างปีพาทย์พื้นบ้านจำนวน  5 เชือก ขบวนสถาบันหลักของชาติ โดยพลายทองใบ พลายคำเมือง พลายโดมอน ขบวนนางรำสุรินทร์สามเผ่า ขบวนต้นบุญกฐินช้าง มีขบวนช้างงามกว่า 50 เชือก พร้อมผู้ร่วมขบวนกว่า 100 คน ขบวนแห่กฐินโบราณพื้นเมืองสุรินทร์ ด้วยวงขยำรำมะนา ขบวนธงกฐินและวงดนตรีพื้นเมือง ขบวนเครื่องอัฐบริขารกฐิน ขบวนกฐินช้าง FC ของดี Sof Power สุรินทร์ เดินร่ายรำเข้าสู่บริเวณลานวัฒนธรรมบริเวณศูนย์คชศึกษาสถานที่จัดงาน ที่ประดับประดาด้วยธงผ้าไหม และรอบที่นั่งประดับประดาด้วยผลไม้นานาชนิด ประกอบองค์กฐินอย่างสวยงาม

          นายอนุทินกล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานในวันนี้เป็นวันทอดกฐินที่ยิ่งใหญ่มีช้างเข้าร่วมแห่ในขบวนจำนวนมาก ซึ่งวัตถุวัตถุประสงค์หลักของงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวมากขึ้น มีคนไทยและคนกัมพูชาเห็นช้างแล้วรู้สึกดีใจ เพราะช้างเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของประเทศ เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ เป็นนักสู้และมีความอ่อนโยน มีทุกมิติภายในช้าง ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับเรา

          และในโอกาสเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้มอบรางวัลการประกวด วาดศิลป์บนช้าง, ชุดผ้าไหมงามนามช้างใหญ่ ระบือไกลทั่วโลก, การประกวดเทพีกฐินช้างสุรินทร์, การประกวดภาพถ่ายกิจกรรมงานบุญกฐินช้างใหญ่สุรินทร์, การประกวดแต่งกายผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์ ประเภทบุคคลและทีม ในครั้งนี้ด้วย.

Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์