20 ตุลาคม 2566 นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีมอบบ้านให้กับผู้ยากไร้ตามโครงการสร้างซ่อมแซมบ้านให้กับผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และ ผู้ประสบความทุกข์ยากเดือนร้อน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพทรงพระเจริญพระชนมายุ 68 พรรษา 2 เมษายน 2566 โดยมีนางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ กรรมการเหล่ากาชาด ชมแม่บ้านมหาดไทย ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ ภาคธุรกิจเครือข่ายการท่องเที่ยวร่วมกันมอบ

            หลังแรก ได้มอบให้นายสมชาย คำสุข บ้านเลขที่ 115 หมู่ที่ 6 บ้านหนองนาโพธิ์ ตำบลดวนใหญ่ อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนางสาวบัวไหล ศรีจันทร์ ภรรยาพร้อมลูกร่วมกันรับมอบ โดยเหล่ากาชาดจังหวัดได้จัดสรรงบประมาณก่อสร้างเป็นเงิน 50000.- บาท ขณะที่ฝ่ายท้องที่ท้องถิ่นและชาวบ้านได้บริจาคเงินสมทบ พร้อมสละแรงงานจิตอาสาในพื้นที่ร่วมกันก่อสร้างบ้านจนเสร็จ ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 2 สัปดาห์

หลังที่สอง ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบให้นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมคณะร่วมกันมอบบ้านให้ นางสาวนันท์นารี ยงกุล บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 22 บ้านขุมคำ ตำบลบุสูง อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ โดยทางเหล่ากาชาดจังหวัดได้จัดสรรงบประมาณก่อสร้างเป็นเงิน 50000 บาท ฝ่ายท้องที่ท้องถิ่นและชาวบ้านต่างได้พร้อมบริจาคเงินสมทบ พร้อมสละแรงงานจิตอาสาในหมู่บ้านร่วมกันก่อสร้างบ้านจนเสร็จ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 เดือน 

           สำหรับการมอบบ้านให้กับผู้ยากไร้ตามโครงการสร้างซ่อมแซมบ้านให้กับผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และ ผู้ประสบความทุกข์ยากเดือนร้อน เฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ ถือเป็นปฐมฤกษ์ของการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา โอกาสเดียวกันนี้ หน่วยงานราชการและภาคธุรกิจเอกชน เป็นต้นว่า เหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ สมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ที่ว่าการอำเภอวังหิน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้พร้อมใจมอบเงินพร้อมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นแก่ทั้ง 2 ครอบครัวอีกด้วย เป็นการลดความเหลื่อมล้ำ สู่การแบ่งปันความสุข ในการมีเฮือนดีๆศรีสะเกษ ไม่ทิ้งกัน ซึ่งทั้งสองครอบครัวต่างได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินชีวิต ด้วยการปลูกสวนครัวไว้กินเอง เพื่อความปลอดภัยและลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น.

Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ