โมเดลความสำเร็จ ‘วิสาหกิจชุมชนฟรุทส์ฟาร์มอุบล’ จ.อุบลราชธานี ผลิตกล้วยหอมทอง สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ส่งออกตลาดญี่ปุ่น สร้างรายได้กลุ่มกว่า 31 ล้านบาท
นางสาวรักชนก ทุยเวียง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 อุบลราชธานี (สศท.11) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า “กล้วยหอมทอง” จังหวัดอุบลราชธานี เป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรมูลค่าสูงของจังหวัด ภายใต้การขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการยกระดับสินค้าเกษตรและเสริมศักยภาพเกษตรกร ”1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูงส่งเสริมให้เกษตรกรทำเกษตรแบบประณีตหรือเกษตรแม่นยำสูง โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพและเทคโนโลยีหมุนเวียน เพื่อยกระดับการผลิตและต่อยอดเป็นสินค้าเกษตรโภชนาการมูลค่าสูง
โดยหนึ่งในวิสาหกิจชุมชนที่ประสบความสำเร็จ คือ วิสาหกิจชุมชนฟรุทส์ฟาร์มอุบล หมู่ที่ 9 ตำบลแก้ง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ผลิตกล้วยหอมทองคุณภาพเพื่อส่งออกประเทศญี่ปุ่น โดยเน้นระบบการผลิตแบบปลอดภัยจากสารพิษ ใช้สารชีวภัณฑ์ ใช้เทคโนโลยีระบบน้ำหยด เน้นการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน สร้างรายได้กลุ่มกว่าปีละ 30 ล้านบาท ซึ่ง สศท.11 ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิตและการตลาดของกลุ่ม พบว่า เกิดจากการรวมตัวกันของเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอมทอง ตั้งแต่ปี 2562 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูก 770 ไร่ (ปลูกเฉลี่ย 4 ไร่/ครัวเรือน) มีสมาชิกผู้ปลูกกล้วยหอม 190 ราย ผลผลิตผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรปลอดภัย (GAP) โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ สนัย เป็นประธานกลุ่ม ซึ่งภายในกลุ่มมีการบริหารจัดการให้ผลผลิตออกสู่ตลาดทั้งปี โดยการหมุนเวียนการปลูกของสมาชิกภายในกลุ่ม เกษตรกรนิยมปลูกพันธุ์แขนทอง เพราะมีเนื้อแน่น รสหวานหอม เปลือกหนา ทนทาน เหมาะสำหรับการส่งออกเกษตรกรจัดสรรพื้นที่ปลูกขนาด 1 ไร่ ปลูกกล้วยหอมทองประมาณ 400 ต้น ปลูกแบบร่องเดี่ยว 2 × 2 เมตร ใช้ระยะเวลาปลูกประมาณ 8 เดือน จึงเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต
สถานการณ์การผลิตกล้วยของกลุ่ม ปี 2568 ได้ผลผลิตรวม 1,632 ตัน/ปี ผลผลิตเฉลี่ย 2,125 กิโลกรัม/ไร่ โดยทางกลุ่มจะรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกในราคาประกันอยู่ที่ 17 บาท/กิโลกรัม หรือ ราคา 205 บาท/เครือ ด้านการตลาด ผลผลิตร้อยละ 80 ทางกลุ่มจำหน่ายให้บริษัท เจ เฟรช เซกะ จำกัด ซึ่งจะเข้ามารับซื้อผลผลิตทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 27.2 ตัน เพื่อส่งออกประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 1,306 ตัน/ปี ซึ่งเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวความแก่ของผลอยู่ที่ ร้อยละ 70 เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาขนส่งประมาณ 15 – 20 วัน ส่วนการจำหน่ายในประเทศ ร้อยละ 20 ส่งจำหน่าย 7-Eleven ตลาดชุมชนและตลาดเจริญศรี ประมาณ 326 ตัน/ปี เกษตรกรจะส่งจำหน่ายที่ความแก่ของผลอยู่ที่ ร้อยละ 80 ราคาขายกล้วยหอมทอง (ราคาเฉลี่ย ปี 2568) แบ่งเป็น 3 เกรด ได้แก่
เกรด A ส่งออกประเทศญี่ปุ่น (น้ำหนักต่อลูกมากกว่า 110 - 120 กรัม) ราคาเฉลี่ย 22 บาท/กิโลกรัม ส่วนกล้วยหอมทองเกรด A ที่ไม่ได้มาตรฐานในการส่งออกจะจำหน่ายภายในประเทศ ส่วน เกรด B จำหน่ายภายในประเทศ (น้ำหนักต่อลูกต่ำกว่า 110 กรัม) ราคาเฉลี่ย 9 บาท/กิโลกรัม และตกเกรด (น้ำหนักลูกต่ำกว่า 110 กรัม คุณภาพลดหลั่นจากเกรด B) ราคาเฉลี่ย 6.5 บาท/กิโลกรัม โดยสัดส่วนของกล้วยหอมทองเกรด A มีมากถึงร้อยละ 80 รองลงมาเกรด B ร้อยละ 17.5 และกล้วยตกเกรด ร้อยละ 2.5 ทั้งนี้ จากการจำหน่ายผลผลิตของกลุ่มสร้างรายได้เฉลี่ย 41,092 บาท/ไร่/รอบการผลิต หากคิดเป็นรายได้ทั้งปีอยู่ที่ 31,558,656 บาท/ปี
ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนฟรุทส์ฟาร์มอุบล ยังมีบทบาทเป็นศูนย์เรียนรู้การปลูกกล้วยหอมทองเพื่อการส่งออก โดยมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ตั้งแต่การลงแปลงสาธิต การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยวผลผลิต การบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงขั้นตอนการขนส่งสินค้า ซึ่งในแต่ละปีมีผู้สนใจเข้าศึกษาดูงานกว่า 200 - 300ราย/ปี อีกทั้งกลุ่มยังได้รับการส่งเสริมองค์ความรู้จากสำนักงานเกษตรจังหวัด และกรมส่งเสริมการเกษตร ในด้านการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตกล้วยหอมทองที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนในระยะต่อไป กลุ่มตั้งเป้าขยายพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองเพิ่มขึ้นอีก 100 ไร่ ภายในปี 2568 โดยปัจจุบันขยายพื้นที่ปลูกแล้ว 70 ไร่ และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 30 ไร่ รวมถึงมีแผนต้องการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าในอนาคต เช่น กล้วยเบรกแตก และกล้วยอบน้ำผึ้ง หากผู้ที่สนใจข้อมูลการผลิตกล้วยหอมทองของวิสาหกิจชุมชนฟรุทส์ฟาร์มอุบล สามารถติดต่อ คุณณรงศักดิ์ สนัย โทร 06 5809 4996 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายอรรถยา ลาพ้น เกษตรอำเภอเดชอุดม โทร 08 5479 9083
#โอเคอีสานOnline #ข้อมูลข่าวสารเพื่อบ้านเรา