รวมพลังศรัทธา สร้างพิพิธภัณฑ์ อนุสรณ์ 100 ปี บ้านท่าศาลา เป็นแหล่งเรียนรู้ในจังหวัดอุบลราชธานี

   เมื่อ : 26 ต.ค. 2568

           นายระลึก ธานี อดีตผู้อำนวยการการประถมศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะประธานขับเคลื่อนการสร้างพิพิธภัณฑ์บ้านท่าศาลา ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี และคณะกรรมการดำเนินงาน พร้อมชาวบ้านท่าศาลา ได้รับเกียรติจาก คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ), พลโท ดร.อรรถ สิงหัษฐิต อดีตรองแม่ทัพภาคที่2 ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก, นายภพ ภูสมปอง อดีตรอง ผวจ. อุบลราชธานี, ดร. สวาท สุทธิอาคาร อดีตเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารโรงเรียน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านท่าศาลา ร่วมกันประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างพิพิธภัณฑ์บ้านท่าศาลา “ อนุสรณ์ 100 ปี บ้านท่าศาลา” 

           เวลา 09:39 น. วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 พิธีวางศิลาฤกษ์ และพิธีทางศาสนา พรามณ์ประกอบพิธี โดยมีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เป็นประธานในพิธี มีนายระลึก ธานี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน ตามลำดับ

           ประวัติและความเป็นมา บ้านท่าศาลา หมู่ที่ 4 ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งขึ้นเมื่อวันเสาร์ แรม 5 ค่ำ เดือน 4 ปีมะเส็ง จุลศักราช 1279 ซึ่งตรงกับ วันที่ 2 มีนาคม 2460 หากนับแบบปัจจุบัน จะตรงกับ พ.ศ.2461 ดังนั้น บ้านท่าศาลา จึงมีอายุครบ 100 ปี ในวันที่ 2 มีนาคม 2561 

           ตลอดระยะเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา บ้านท่าศาลา มีการพัฒนาทุกด้าน และผ่านเหตุการณ์สำคัญที่ควรบันทึกไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ เช่น การเลือกผู้ใหญ่บ้านท่าศาลาคนแรกในปี พ.ศ. 2460 ตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มีการตั้งวัด การตั้งโรงเรียนบ้านท่าศาลา การจัดการศึกษา การประกอบอาชีพ การอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมในชุมชน และพัฒนาท้องถิ่นจนมีความเจริญก้าวหน้าถึงปัจจุบัน

           ด้วยความสำคัญหลายประการดังกล่าว คณะกรรมการดำเนินงานก่อตั้งพิพิธภัณฑ์บ้านท่าศาลา ประกอบด้วย คณะสงฆ์ วัดอัมพวันนาราม ประชาชนชาวบ้านท่าศาลา หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 คณะศิษย์เก่าโรงเรียนบ้านท่าศาลา ทุกสาขาอาชีพ มีความเห็นว่า ควรสร้างสถานที่สำคัญ “ พิพิธภัณฑ์บ้านท่าศาลา” เพื่อเป็นอนุสรณ์ในโอกาสครบรอบ 100 ปี บ้านท่าศาลา และเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษที่สร้างบ้านแปงเมืองและมีความเจริญก้าวหน้าถึงปัจจุบัน 

           สำหรับวัตถุประสงค์ในการตั้ง “พิพิธภัณฑ์บ้านท่าศาลา” เป็นอนุสรณ์ 100 ปี บ้านท่าศาลา ดังนี้

          1. เพื่อรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำเนิน ชีวิตประจำวัน เครื่องมือเครื่องใช้การประกอบอาชีพ เช่น อาชีพการทำนา การทำไร่อ้อย การทำไร่ปอ การทำประมง ตัวอย่างเช่น ครกกระเดื่อง โฮงหีบอ้อย หม้อกระทะต้มน้ำอ้อย สะพัง คราด ไถ ซ้อน แห สวิง ฯลฯ โดยการเก็บรักษาไว้ให้เป็นระบบเรียบร้อย เป็นหมวดหมู่และเก็บรักษาไว้

          2. เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับชาวบ้านท่าศาลา เยาวชนบ้านท่าศาลา ตลอดจนประชาชนทั่วไปได้ทราบความเป็นมา ความเป็นอยู่ และวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ของชาวบ้านท่าศาลาตั้งแต่สมัยแรกตั้งจนถึงปัจจุบัน

          3. เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสำหรับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ความรัก และการธำรงรักษา โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เครื่องมือเครื่องใช้ ฯลฯ ให้คงอยู่คู่กับสังคมชาวบ้านท่าศาลาตลอดไป

           สำหรับพื้นที่การใช้สอยและการจัดแสดงในอาคาร 4 ชั้น พิพิธภัณฑ์บ้านท่าศาลาเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ความกว้าง 20 เมตร ความยาว 20 เมตร พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 699.12 ตารางเมตร แบ่งเป็น 4 ชั้น ออกแบบโดย รศ.ดร.ติ๊ก แสนบุญ คณบดีคณะศิลปประยุกต์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และคณะ นอกจากนี้ นายกิตต์ มักการุญ สถาปนิกชำนาญการพิเศษ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ปรับแก้แบบแปลนบางส่วน นายธรรมชาติ อรรถเวทิน วิศกรโยธาชำนาญการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ประเมินราคาค่าก่อสร้าง ซึ่งแต่ละชั้นมีรายละเอียดดังนี้ 

          ชั้นที่ 4 มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 29.16 ตารางเมตร สำหรับเก็บรักษา และจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา มีรูปหล่อเหมือนและมีภาพติดผนังพร้อมประวัติย่อของพระเถรานุเถระ ที่มีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการต่อชาวบ้านท่าศาลา ชาวบ้านชีทวน หรือทุกหมู่บ้านในท้องที่ตำบล ชีทวน ได้แก่

          1. พระพรหมวัชรสุทธาจารย์ (ทองดี สู่เสน) เจ้าอาวาสวัดอาวุธ วิกสิตาราม อำเภอบางพลัด กรุงเทพมหานคร

          2. พระครูกัญญาณ์ (อาชญาท่านกัญญา) อดีตเจ้าคณะแขวงอำเภอ (ปัจจุบันคือ อำเภอเขื่องใน) อดีตเจ้าอาวาสวัดกลาง ปจิมูปลนิคม คนแรก อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งศรีวิไล ซึ่งเป็นชาวชีทวนโดยกำเนิดเขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นชาวชีทวนโดยกำเนิด 

          3. พระนิโรธรักขิต (อ่อน จนฺทสโร) เจ้าอาวาสวัดกาญจนสิงหาสน์

          4. พระอุปัชฌาย์วงศ์ พรหมสโร อดีตเจ้าคณะตำบลชีทวน (คนแรก) เจ้าอาวาสวัดศรีนวลแสงสว่างอารมย์

           ชั้นที่ 3 พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด73.96 ตารางเมตร เป็นพื้นที่กำหนดไว้ สำหรับประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลเจ้าเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมกับจัดแสดง ภาพถ่าย ประวัติโดยย่อของพระองค์ ประวัติบ้านท่าศาลา บ้านชีทวน และ ท้องที่หมู่บ้านอื่นๆ ในท้องที่ตำบลชีทวน ประวัติอำเภอเขื่องใน และประวัติจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้งภาพถ่ายของบุคคลสำคัญและมีคุณูปการแก่พวกเราชาวชีทวน ได้แก่

          1. พระอุบลเดชประชารักษ์ (เสือ ณ อุบล) เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนที่ 9 ซึ่งมีมารดาเป็นคนบ้านชีทวน

          2. หลวงบริคุตคามเขตต์ (โง่นคำ สุวรรณกูฏ) อดีตนายอำเภอคนแรกของอำเภอปจิมูปลนิคม (ปัจจุบันคือ อำเภอเขื่องใน) ผู้มาจัดประชุมเพื่อชี้แจงให้ชาวตำบลชีทวน และตำบลหนองบ่อ มีนามสกุลใช้ เมื่อปลายเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2459 และเป็นคนที่มาจัดวางแบบแผนในการจัดตั้งบ้านท่าศาลา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2461 และจัดตั้งวัดอัมพวันนาราม เมื่อปี พ.ศ.2463

          3. ท้าวพรหมวงศา (ม่วง ประเสริฐศรี) ผู้ดำรงตำแหน่งท้าวฝ่าย (เทียบเท่านายอำเภอ) ปกครองบ้านชีทวน แขวงเมืองอุบลราชธานี (คนสุดท้าย)

          4. เฒ่านามกาสี อดีตกำนันตำบลชีทวนคนแรก ซึ่งตั้งขึ้นตาม “พระราชบัญญัติ ลักษณปกครองท้องที่ ร.ศ.116 (พ.ศ. 2460) และเป็นบุคคลแรกของตำบลชีทวนที่ใช้นามสกุล “ธานี”

          5. นายเส็ง ธานี บุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งบ้านท่าศาลา ต่อมาได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของบ้านท่าศาลา

          6. ดร.คำหมา แสงงาม (พ.ศ.2434-2533) ดร.คำหมา แสงงาม เป็นชาวชีทวนโดยกำเนิด มีความรู้ความสามารถในด้านช่างก่อสร้าง โดยเฉพาะสร้างโบสถ์ สร้างศาลาการเปรียญ สร้างประตูเข้าวัด จึงได้รับยกย่องว่าเป็น “ช่างเทวดาและช่างเนรมิต” ได้รับ “ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาศิลปะ” จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม” และได้รับการยกย่องและเชิดชูเกียรติให้เป็น “ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์” (การปั้น แกะสลัก) จากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อปี พ.ศ. 2530

          7. นายมาศ สมหอม อดีตสรรพากรจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ที่มอบที่ดิน 1 แปลง พื้นที่จำนวน 25 ไร่ ให้เป็นที่ตั้งโรงเรียนบ้านท่าศาลา ตั้งแต่ พ.ศ.2479 จนถึงมีจจุบัน

          8. นายโทน ฉลวยศรี รับราชการครู เคยดำรงตำแหน่งครูใหญ่หลายโรงเรียน รวมทั้งโรงเรียนบ้านชีทวนด้วย เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโรงเรียนบ้านชีทวน โรงเรียนบ้านหนองบ่อ โรงเรียนบ้านท่าไหนฯลฯ

          9. พลเอกวิษณุ ธานี อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการก่อสร้าง “พระธาตุสวนตาลองค์ปัจจุบัน” เมื่อปี พ.ศ.2542 และเป็นผู้ให้การสนับสนุนการทำบุญผ้าป่าสามัคคี กฐินสามัคคี ในการทำนุบำรุงวัดธาตุสวนตาล วัดอัมพวันนาราม เป็นต้น

           ชั้น 2 พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 196 ตารางเมตร เป็นพื้นที่สำหรับเก็บรักษาและแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และเครื่องมือ เครื่องใช้ ที่น้ำหนักไม่มากนัก เช่น เครื่องมือทอผ้าไหม ทอผ้าฝ้าย วัตถุโบราณ และศิลปวัตถุต่างๆ 

           สำหรับ ชั้น 1 พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 400 ตารางเมตร เป็นพื้นที่เก็บรักษาและแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ และอื่นๆ ที่มีน้ำหนักมาก เช่น โฮงหีบอ้อย คราด ไถ เกวียน ฯลฯ

           สำหรับเป้าหมายสำอีกประการหนึ่ง คือ จะต้องสร้างพิพิธภัณฑ์ให้แล้วเสร็จในวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2570 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องวันคล้ายวันพระบรมราชสมภาพของ พระบามสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

           หลังเสร็จพิธีวางศิลาฤกษ์ และนายระลึก ธานี และคณะกรรมการ ได้จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เนื่องในโอกาส วันคล้ายวันเกิด 26 ตุลาคม และมีอายุวัฒนะ 76 ปี (26 ตุลาคม 2568) และในการนี้ นายระลึก ธานี ขอขอบคุณประธานในพิธี และผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน รวมทั้งสื่อมวลชนทุกสาขา สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดอุบลราชธานี สถานีVR เคเบิ้ลทีวี ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี 

        ……….

  • ปัญญา แพงเหล่า/รายงาน

        25 ตุลาคม 2568

 

#โอเคอีสานOnline #ข้อมูลข่าวสารเพื่อบ้านเรา