การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (Joint Boundary Commission: JBC) สมัยวิสามัญ ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 21–22 ตุลาคม 2568 ได้ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 00.12 น. ของวันที่ 23 ตุลาคม 2568 โดยประธานร่วมทั้งสองฝ่าย — นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศด้านเขตแดน (ฝ่ายไทย) และ นายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการแห่งรัฐด้านกิจการเขตแดน (ฝ่ายกัมพูชา) — ได้ร่วมลงนามในบันทึกการประชุม พร้อมออก ถ้อยแถลงร่วม (Joint Press Release Statement) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ JBC

            ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามใน บันทึกการประชุมร่วมกัน ภายหลังการหารืออย่างสร้างสรรค์และตรงไปตรงมา เพื่อผลักดันความคืบหน้าในประเด็นภายใต้อำนาจของ JBC โดยมี ผลลัพธ์สำคัญ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

            1. เห็นชอบการซ่อมแซมและจัดทำหลักเขตแดนใหม่ ทดแทนหลักเขตที่เสียหาย ตามจุดที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน

            2. เร่งปรับปรุง TOR ปี 2003 เพื่อนำเทคโนโลยี LiDAR มาช่วยจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ โดยจะเริ่มทดลองใช้ภายในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม 2568

            3. เห็นพ้องเร่งสำรวจและจัดทำหมุดชั่วคราว ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42–47 (บริเวณบ้านหนองจาน–บ้านหนองหญ้าแก้ว) เพื่อให้เกิดความชัดเจนและลดปัญหาการครอบครองพื้นที่ทับซ้อน

            สาระสำคัญของผลการประชุม มีทั้งหมด 7 ข้อ

            1. เห็นชอบให้คณะกรรมาธิการฝ่ายเทคนิคส่วนร่วม (JTSC) ปรับแทนหลักเขตแดน 15 หลัก ให้กลับสู่ตำแหน่งดั้งเดิม

            2. เห็นชอบเปลี่ยนแทนหลักเขตแดนใต้น้ำ 3 หลัก ตามตำแหน่งที่เห็นพ้อง

            3. เร่งปรับปรุง TOR ปี 2003 เพื่อจัดทำแผนที่ภาพถ่ายภูมิประเทศ โดยนำเทคโนโลยี LiDAR มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

            4. เห็นชอบข้อกำหนดทางเทคนิค (TI) สำหรับการสำรวจระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42–47

            5. ย้ำให้คณะสำรวจร่วมดำเนินงานในสภาวะปลอดภัย งดเว้นการกระทำที่ก่อให้เกิดความตึงเครียด

            6. ยืนยันว่าการติดตั้งหลักเขตชั่วคราวเป็นเพียงเพื่อการสำรวจเท่านั้น ไม่กระทบเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ

            7. เห็นพ้องจัดประชุม JBC ครั้งต่อไป ณ จังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2569

            ขณะที่ประเด็นการสร้างรั้วชายแดนของฝ่ายไทย ถูกฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่า “ไม่ได้รับมอบอำนาจให้พิจารณา” จึงตกลงร่วมกันให้นำออกจากระเบียบวาระการประชุม

            การประชุมครั้งนี้เป็นสัญญาณแห่งความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นของทั้งสองประเทศ มุ่งสร้างเสถียรภาพและสันติภาพในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างยั่งยืน 

Cr.ทีมโฆษกกองทัพบก

#โอเคอีสานOnline #ข้อมูลข่าวสารเพื่อบ้านเรา