ปภ. แจ้ง 55 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน 25 – 30 ก.ย. หน่วยงานภาครัฐระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

   เมื่อ : 24 ก.ย. 2568

            เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมและอุทกภัยทั่วประเทศ โดยได้ประเมินสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ซึ่งออกประกาศฉบับที่ 23/2568 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก ระหว่างวันที่ 25 – 30 กันยายน 2568 โดยพบว่าหลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม

 

  • พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง

- เขตเมืองที่มักเกิดน้ำท่วมขังประจำ: นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร

- น้ำท่วมฉับพลัน – น้ำป่าไหลหลาก – ดินโคลนถล่ม: รวม 36 จังหวัด ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้

- อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำเกิน 80% ของความจุ: รวม 47 จังหวัดทั่วประเทศ

- พื้นที่ลุ่มต่ำและแม่น้ำสายหลัก: เช่น แม่น้ำยม, แม่น้ำชี, แม่น้ำมูล, แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก มีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นฉับพลัน

- แม่น้ำโขง: ฝนตกหนักสะสมใน สปป.ลาว ส่งผลให้ระดับน้ำโขงสูงขึ้น กระทบจังหวัดริมโขง เช่น เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี

- แม่น้ำเจ้าพระยา: การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,200 ลบ.ม./วินาที จะทำให้หลายจังหวัดภาคกลาง โดยเฉพาะชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ได้รับผลกระทบ

 

  • มาตรการจัดการน้ำ

- ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์ เพื่อลดแรงกดดันน้ำที่ไหลลงสู่เจ้าพระยา

- เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็น 650 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่ 24 ก.ย. 68 ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักสูงขึ้นอีก 1.50–1.80 ม.

- เขื่อนพระรามหกเตรียมรองรับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และคลองชัยนาท–ป่าสัก โดยจะระบายน้ำ 550–700 ลบ.ม./วินาที ในช่วง 26–28 ก.ย.

- เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ปรับการระบายน้ำไม่เกินวันละ 35 ล้าน ลบ.ม. เพื่อไม่ให้กระทบพื้นที่ท้ายน้ำ

 

  • สถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน

            ณ วันที่ 23 ก.ย. 2568 พบว่ามีอุทกภัยใน 15 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา และจันทบุรี ครอบคลุม 62 อำเภอ 389 ตำบล 2,293 หมู่บ้าน ส่งผลกระทบ 76,134 ครัวเรือน ประชาชนกว่า 247,000 คน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย

            ใน จังหวัดเชียงใหม่ ฝนยังตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน อ.กัลยาณิวัฒนา แม่แจ่ม ฮอด และสันป่าตอง ปริมาณฝนเฉลี่ยสูงสุด 224 มม. ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยสะพานแม่นาจรคาดว่าระดับน้ำจะสูงถึง 4.60 ม. ขณะที่ อ.สันป่าตอง ระดับน้ำจากแม่น้ำขานและแม่วางรวมตัวกันเกินระดับวิกฤติ (6.08 ม.) ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนเร่งอพยพ

            ใน จังหวัดเพชรบูรณ์ ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูง ฝายและสะพานหลายจุดเกินระดับวิกฤติ เช่น สะพานตาลเดี่ยว (9.35 ม. สูงกว่าตลิ่ง 1.05 ม.) และสะพานเทศบาลหล่มสัก น้ำเต็มตลิ่ง ประชาชนบางส่วนต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงแล้ว

 

  • การเตือนภัยและช่วยเหลือ

            ปภ. กำชับให้ทุกจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล และชุดเผชิญเหตุวิกฤต (ERT) เพื่อเข้าช่วยเหลือทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ประชาชนสามารถแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือได้ผ่าน

- สายด่วนนิรภัย 1784

- Line ID @1784DDPM

- แอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT

            ทั้งนี้ ปภ. ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยง เร่งเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และกลุ่มเปราะบาง รวมถึงติดตามข่าวสารจากราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในช่วงที่ยังมีฝนตกหนักและน้ำท่วมต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้

Cr.กรมประชาสัมพันธ์