รายงานพิเศษ : เปิดประวัติช่างภาพในงานพระราชทานเพลิงศพพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)

จังหวัดอุบลราชธานี มีประวัติและความสำคัญมายาวนานกว่า 232 ปี มีความเจริญก้าวหน้า ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา เป็นจังหวัดที่มีอาณาเขตติดชายแดน 2 ประเทศ คือ สปป.ลาว และกัมพูชา มีประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามสืบสานมาถึงปัจจุบัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ชาวจังหวัดอุบลราชธานี มีส่วนร่วมในพัฒนา ส่งเสริมงานต่างๆให้ประสบความสำเร็จ และมีความภาคภูมิใจในการดำรงชีพร่วมกันอย่างมีความสุข
จากการศึกษาเรียนรู้ พบว่า ทุกภาคส่วนมีความรับผิดชอบในหน้าที่ และสร้างความรัก ความสามัคคี เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างดียิ่ง ซึ่งมีกิจกรรมที่หลากหลายจากหน่วยงานและบุคคลในท้องถิ่น และเป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งสมควรได้รับการเผยแพร่ให้ทราบทั่วกัน..

เมื่อปี 2535 จังหวัดอุบลราชธานี มีเหตุการณ์ สำคัญ 2 เรื่อง คือ
1. จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดงานเฉลิมฉลอง 200 ปี อุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2535 เนื่องในโอกาสครบ 200 อุบลราชธานี (15 กรกฎาคม 2335 - 15 กรกฎาคม 2535) ซึ่งมีนายสายสิทธิ พรแก้ว เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด และทุกภาคส่วนร่วมกันจัดงาน
2. พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท) วัดหนองป่าพง ได้ละสังขาร ในวันที่ 16 มกราคม 2535 ซึ่งตรงกับวันครู
ในปี 2536 เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง จากปี 2535 ที่ศิษยานุศิษย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เตรียมงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท) ซึ่งมี ร้อยตรีไมตรี ไนยะกุล เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับวัดหนองป่าพง และทุกภาคส่วนร่วมจัดงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในวันที่ 16 มกราคม 2536 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนิน พระราชทานเพลงศพ พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
ในการนี้ มีคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เตรียมงานและรับผิดขอบจนงานสำเร็จด้วยดี หนึ่งในคณะกรรมการที่สำคัญ คือ นายไพบูลย์ เพิ่มพูล คณะกรรมการฝ่ายเทคนิค ถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ จึงขอนำเรียนประวัติ ช่างภาพที่ได้รับมอบหมายให้บันทึกภาพนิ่งในพิธีพระราชทานเพลิงศพพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท) และภาพรวมตลอดงาน ประมาณ 25 ม้วน (ฟิล์มสี) และอัดเป็นภาพ ประมาณ 900 ภาพ และมอบถวายวัดหนองป่าพง เพื่อใช้ประโยชน์

ประวัติและผลงาน : นายไพบูลย์ เพิ่มพูล เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๙ ที่บ้านเลขที่ ๕๑ ซอยสุขาสงเคราะห์ ๑๑ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุตรชายของ นายชู – นางทิพย์วรรณ์ เพิ่มพูล มีพี่น้อง ร่วมบิดา – มารดา รวม ๔ คน ดังนี้
๑. นายไพบูลย์ เพิ่มพูล
๒. นางไพทูรย์ นามแสง อดีตอาจารย์ ๒ ระดับ ๗ โรงเรียน บ้านท่าบ่อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
๓. นางประยูรศรี สดีวงษ์ อดีตครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาล บุณฑริก อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี
๔. นางพัชรินทร์ เพิ่มพูล อดีตครูชำนาญการพิเศษโรงเรียน บ้านโนนสวรรค์ อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี
การศึกษา
นายไพบูลย์ เพิ่มพูล สำเร็จการศึกษาในระดับต่างๆ ดังนี้
- ปีการศึกษา ๒๕๐๑ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนวัดบ้านนาควาย (ร.ร.เมืองอุบล) อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
- ปีการศึกษา ๒๕๐๖ สำเร็จประโยคมัธยมวิสามัญศึกษา ตอนปลาย (ม.๖) จากโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
- ปีการศึกษา ๒๕๐๘ ป.กศ. จากวิทยาลัยครูอุบลราชธานี
- ปี ๒๕๑๑ พ.ม. (ศึกษาด้วยตนเอง)
- ปี ๒๕๑๙ กศ.บ. (การประถมศึกษา) จาก มศว.ประสานมิตร
- ปี ๒๕๒๔ กศ.ม. (เทคโนโลยีทางการศึกษา) มศว.ประสานมิตร
การรับราชการ
นายไพบูลย์ เพิ่มพูล ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นราชการ สังกัดกระทรวง ศึกษาธิการ ในหน่วยงานต่างๆ ดังนี้
เริ่มรับราชการ เมื่อวันที่ ๒ เดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๐๘ ตำแหน่ง ครูจัตวา โรงเรียนบ้านคีมยาว อำเภอเลิงนกทา จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็นจังหวัดยโสธร) ดำรงตำแหน่งอื่นๆ ดังนี้
๑ สิงหาคม ๒๕๑๑ : ครูใหญ่จัตวาโรงเรียนบ้านคีมยาวอ.เลิงนกทา จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็นจังหวัดยโสธร)
๑ กันยายน ๒๕๑๖ : ครูตรีโรงเรียนบ้านห้วยขะยุง (คุรุพานิช วิทยาคาร) อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
๑ มิถุนายน ๒๕๑๘ : ครูโทโรงเรียนบ้านห้วยขะยุง (คุรุพานิช วิทยาคาร) อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
๔ กันยายน ๒๕๒๔ : ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ระดับ ๔ โรงเรียนบ้านห้วยขะยุง (คุรุพานิชวิทยาคาร) อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
๑ ตุลาคม ๒๕๒๖ : ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ระดับ ๕ โรงเรียนบ้านห้วยขะยุง (คุรุพานิชวิทยาคาร) อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
ศึกษานิเทศก์ ๕ สปจ.อุบลราชธานี /ศึกษานิเทศก์ ๖ สปจ.อุบลราชธานี / ศึกษานิเทศก์ ๗ สปจ.อุบลราชธานี / ศึกษานิเทศก์ ๘ สพท.อบ.๑
เกษียณอายุราชการ
เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙ ในตำแหน่ง ศึกษานิเทศก์ ๘ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต ๑ (สพท.อบ.๑)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับ
- ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
- เหรียญจักรพรรดิมาลา
ชีวิตครอบครัว
นายไพบูลย์ เพิ่มพูล สมรสกับ นางเพ็ญศรี เพิ่มพูล เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๓ มีบุตร – ธิดาด้วยกัน ๔ คน ได้แก่
๑. นายภูดิศ เพิ่มพูล นักวิชาการสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดยโสธร สมรสกับ นางภคมน เพิ่มพูล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ พิเศษ โรงพยาบาลยโสธร มีบุตรด้วยกัน ๒ คนคือ
- นายณภัทร เพิ่มพูล วิศวกรไฟฟ้าระดับ ๕ การไฟฟ้าฝ่าย ผลิตแห่งประเทศไทย ประจำโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสา สปป.ลาว
- นางสาวภรภัทร เพิ่มพูล ทนายความ
๒. นางพนิตา เฉียวฉกรรจ์ สมรสกับ นายนรินทร เฉียวฉกรรจ์ หัวหน้างานรังวัด สำนักงานที่จังหวัดอุบลราชธานี สาขาวารินชำราบ มีบุตรด้วยกัน ๒ คน คือ
- นางสาวพริมา เฉียวฉกรรจ์ พนักงาน บริษัท บี วาย ดี ออโต้ประเทศไทย จ.ระยอง
- นางสาวพัชสุวี เฉียวฉกรรจ์ กำลังศึกษาอยู่ที่ คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ ๒ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
๓. นางสาวพิไลพร เพิ่มพูล ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาสถลมาร์ค อ.วารินชำราบ สมรสกับ นายประวัติ อาษาศรี ผู้จัดการ ธนาคารออมสิน สาขาตระการพืชผล
๔. นายพฤฒิพงศ์ เพิ่มพูล เสียชีวิต

ผลงานที่ทำไว้กับวงการการศึกษา
นายไพบูลย์ เพิ่มพูล ได้ใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ให้คำแนะนำแก่ ครู อาจารย์ ผู้บริหารโรงเรียน ศึกษานิเทศก์และผู้นำชุมชน เนื่องจากเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยดี สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน ให้เกียรติและมีความ ปรารถนาดีกับทุกคน เป็นผู้ริเริ่มเสนอให้สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี (สปจ.อุบลราชธานี) จัดตั้ง “ศูนย์สื่อการเรียนการสอนขึ้น เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำแก่ครูในเรื่องหลักสูตรการสอน การเขียนแผนการสอน การผลิตสื่อการเรียนการสอน การคิดค้นนวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาการเรียนการสอน เช่น การจัดทำแบบเรียนสำเร็จรูป การจัดทำชุดการสอน การผลิตสื่อการสอนประเภทต่างๆ”
นายไพบูลย์ เพิ่มพูล ได้รับแต่งตั้งจากสำนักงานคณะกรรมการการ ประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) ให้เป็นผู้ตรวจและกลั่นกรองผลงานของครู ที่ทำผลงานทางวิชาการ หรือเลื่อนระดับจากอาจารย์ ๒ เป็น อาจารย์ ๓ ระดับ ๖ - ๗ - ๘ และ ศึกษานิเทศก์ 5 เป็น ศึกษานิเทศก์ ๗ - ๘
ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ - ๒๕๒๖ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) ได้ขอตัว นายไพบูลย์ เพิ่มพูล ไปช่วยราชการ เป็น คณะทำงานโครงการส่งเสริมสมรรถภาพการสอน (RIT) ที่โรงเรียนเมืองใหม่ จ.ลพบุรี ได้จัดทำแบบเรียนสำเร็จรูปทุกกลุ่มประสบการณ์ เพื่อนำมาใช้กับโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศ
ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ สปช. ได้แต่งตั้งให้ นายไพบูลย์ เพิ่มพูล เป็น คณะทำงานจัดทำแบบเรียนสำเร็จรูปจริยศึกษา เพื่อพัฒนาคุณธรรม ชั้น ป.๑ - ป.๖ ที่สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สราษฎร์ธานี ได้แบบเรียนสำเร็จรูป ๖ เล่ม ป.๑ การเป็นลูกที่ดี / ป.๒ การเป็นศิษย์ที่ดี / ป.๓ การเป็นเพื่อนที่ดี / ป.๔ การเป็นพลเมืองที่ดี / ป.๕ การเป็นสาวกที่ดี / ป.๖ การเป็นมนุษย์ที่เต็ม
การไปทำงานที่สวนโมกขพลาราม ได้มีหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ เป็นผู้แสดงธรรมเทศนาให้ฟัง และทีมงานก็นำมาจัดทำเป็นแบบเรียน จึงมีความเคารพนับถือและได้ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในปีการศึกษา ๒๕๓๕ ได้เป็นหัวหน้าคณะทำงานและบรรณาธิการ ตรวจสอบปรับปรุงต้นฉบับหนังสือชุดฝึกอบรมผู้บริหารโรงเรียนด้วยตนเอง ๔ เล่ม เพื่อแจกจ่ายให้โรงเรียนทั่วประเทศ
ในปี พ.ศ.๒๕๒๗ - ๒๕๓๐ นายไพบูลย์ เพิ่มพูล ได้เป็นคณะทำงานในโครงการการศึกษาเพื่อพัฒนาชนบท (กศ.พช.) โดยมี นายระลึก ธานี เป็นหัวหน้าโครงการ ทำให้โรงเรียนในโครงการในทุกอำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการพัฒนาตามอุดมการณ์ แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง
ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ - ๒๕๔๓ ในสมัยที่ นายประสงค์ มากนวล เป็นผู้อำนวยการการประถมศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดทำวารสาร การศึกษา “วารสารเพื่อนครูอุบล” โดยมี นายสุมิตร เสนสม ศึกษานิเทศก์ เป็นบรรณาธิการ จัดพิมพ์ ๒,๐๐๐ เล่ม มอบให้โรงเรียนทุกโรงเรียนในจังหวัด โดย นายไพบูลย์ เพิ่มพูล ได้เป็นผู้รับผิดชอบเขียนคอลัมน์ “สายธาร แห่งธรรม” และ บทความอื่นๆ ในคอลัมน์ “นิเทศทางไกล” ทำให้ผู้บริหารโรงเรียน คณะครู อาจารย์และศึกษานิเทศก์อำเภอสนใจติดตามอ่านเป็นจำนวนมาก
การบำรุงช่วยเหลืองานด้านพระพุทธศาสนา ตลอดชีวิตของ นายไพบูลย์ เพิ่มพูล มีความผูกพันกับวัดนาควาย ตั้งแต่เด็กๆ เนื่องจากบ้านอยู่หน้าวัด พระครูโสภณขันตยาภรณ์ (โกสีย์ ขนฺติโก) อดีตเจ้าอาวาสวัดนาควาย ได้มอบความไว้วางใจให้เป็น คณะกรรมการวัด เป็นไวยาวัจกรวัด มีงานหรือปัญหาใดๆ ในวัด ท่านพระครูจะให้ นายไพบูลย์ เพิ่มพูล ช่วยเหลือ แนะนำ ไม่ว่างานการก่อสร้างภายในวัด งานเกี่ยวกับพระสงฆ์สามเณร งานการเงินของวัด และงานของชุมชนรอบวัด เป็นต้น นายไพบูลย์ เพิ่มพูล ก็รับสนองงานวัดได้เป็นอย่างดี โดยทำหน้าที่เป็นพิธีกรงานบุญ งานฌาปนกิจ และเป็นผู้นำทางศาสนาของวัดในเกือบทุกงาน ผู้คนในชุมชนคุ้มวัดนาควาย จึงมีความรัก ความเคารพ นับถือ ให้เกียรติและให้การยอมรับอย่างเสมอต้นเสมอปลายตลอดมา
นับเป็นแบบอย่างที่ดีในการครองตน ครองคน ครองงาน ด้วยความราบรื่นและประสบความสำเร็จในชีวิตให้สังคมได้เรียนรู้ตลอดไป
- ปัญญา แพงเหล่า/รายงาน
7 สิงหาคม 2568
