”ปราสาทตาเมือนธม” มรดกขอมโบราณบนแผ่นดินไทย ตั้งอยู่ชายแดนไทย – กัมพูชา ที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์

วันนี้ #RTAknowledge โดยทีมโฆษกกองทัพบก จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ “ปราสาทตาเมือนธม” โบราณสถานสำคัญของไทย ที่ไม่เพียงมีคุณค่าเชิงประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นหลักฐานทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ที่สะท้อนอารยธรรมขอมโบราณซึ่งเคยรุ่งเรืองในภูมิภาคนี้
- ที่ตั้งและลักษณะของปราสาท
ปราสาทตาเมือนธม ตั้งอยู่บริเวณช่องเขาตาเมือน บนเทือกเขาพนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกลุ่มปราสาทตาเมือน ซึ่งรวมถึงปราสาทตาเมือน (บายกรีม) และปราสาทตาเมือนโต๊ด
นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในศิลปะแบบบาปวน ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาฮินดู โดยมีศูนย์กลางคือ “ศิวลึงค์” ที่สกัดจากหินธรรมชาติ สันนิษฐานว่าเป็น “สวายัมภูลึงค์” หรือศิวลึงค์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อันเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะ เทพเจ้าสูงสุดในลัทธิไศวนิกาย
ภายในยังมีท่อโสมสูตร (ท่อระบายน้ำศักดิ์สิทธิ์) ที่เชื่อมจากศิวลึงค์สู่ระเบียงคดด้านทิศตะวันออก และบรรณาลัย (ห้องสมุดโบราณ) 2 หลัง นอกจากนี้ ยังมีสระน้ำโบราณอยู่ด้านนอก
- หลักฐานยืนยันความเป็นโบราณสถานของไทย
กรมศิลปากรยืนยันในปี พ.ศ. 2553 ว่าปราสาทตาเมือนธมอยู่ในฝั่งประเทศไทยอย่างชัดเจน และได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 (กว่า 90 ปีก่อน) โดยอ้างอิงตามแผนที่มาตรฐานสากลที่ยึด “สันปันน้ำ” เป็นเส้นแบ่งเขต
พื้นที่นี้อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี และได้ดำเนินการบูรณะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางการกัมพูชาได้รับรู้มาโดยตลอด ทั้งยังมีโบราณวัตถุจากบริเวณนี้จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุรินทร์
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังได้สร้างเส้นทางบริเวณปราสาทแห่งนี้ไว้สำหรับการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาและสัมผัสมรดกวัฒนธรรมล้ำค่านี้ด้วยตนเอง
ที่สำคัญคือ การขึ้นทะเบียนปราสาทแห่งนี้ของไทย เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ประเทศกัมพูชาจะได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส (พ.ศ. 2496) และการรับรองจากองค์การสหประชาชาติ (พ.ศ. 2498) นานถึงกว่า 20 ปี สะท้อนถึงบทบาทของไทยในการดูแลรักษามรดกทางวัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน และมีหลักฐานรองรับอย่างชัดเจน
Cr.ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก
ขอบคุณข้อมูลจาก
– ประกาศกรมศิลปากร (ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 8 มีนาคม 2478)
– เพจเฟซบุ๊ก “โบราณนานมา”
– เว็บไซต์ TrueID “ที่เที่ยวดัง”