รายงานพิเศษ : สามเหลี่ยมมรกต ดินแดนประวัติศาสตร์ 3 ประเทศ

จังหวัดอุบลราชธานี ในพื้นที่ชายแดนที่อำเภอน้ำยืน คือสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย และอาเซียน เป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์ ที่ค้นพบภาพสลักนารายณ์บรรทมสินธุ์ ในแผ่นหินใต้น้ำโดม บนเทือกเขาพนมดงรัก ขนาดยาว 120 เซนติเมตร สูง 50 เซนติเมตร ลักษณะพระนารายณ์บรรทมตะแคงขวา อยู่เหนือพญานาค 7 เศียร คาดว่าอยู่ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16-17 และมีทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ สายน้ำ เกาะแก่งที่อุดมสมบูรณ์ เป็นเขตอนุรักษ์พันธุสัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามแนวชายแดน
ในเขต ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ. อุบลราชธานี ยังมีสถานที่สำคัญหลายแห่งซึ่งทางราชการประกาศให้เป็น “สามเหลี่ยมมรกต” ที่ช่องบก มีชายแดนติดต่อกัน 3 ประเทศ ไทย ลาว และกัมพูชา ซึ่งในช่วงปี พ.ศ.2528 – 2530 มีกองกำลังทหารต่างชาติสู้รบตามแนวชายแดน (ทหารเวียดนาม ทหารเขมร) และกองกำลังทหารไทยได้ต่อสู้ ป้องกันไม่ให้กองกำลังต่างชาติรุกล้ำอธิปไตย และสามารถยึดสมรภูมิรบ คือ เนิน 500 เนิน 408 เนิน 382 เนิน 469 และเนิน 495 ทำให้เกิดการสูญเสียกำลังพลทุกฝ่ายจำนวนมาก...

สำหรับเนิน 500 ใน สมรภูมิรบช่องบก มีความสำคัญมากจนนักประวัติศาสตร์ นักเขียน นักข่าวเขียนไม่มีวันจบ เคยเป็นฐานที่ตั้งของการก่อการร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และเป็นโรงเรียนทางการเมืองอบรมลัทธิคอมมิวนิสต์อาเซียนแห่งแรกในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2518 และมีเหตุการณ์การต่อสู้ในประเทศกัมพูชา จนถึงในปี 2528 กองกำลังต่างชาติได้บุกยึดสมรภูมิเนิน 500 เพื่อเป็นป้อมบัญชาการต่อสู้ และผลักดันกองกำลังทหารเขมรแดง ส่งผลกระทบถึงความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน กองกำลังทหารไทยภายใต้การนำของแม่ทัพภาคที่ 2 และหน่วยสนับสนุนได้ต่อสู้ และปกป้องผืนแผ่นดินไทย ดินแดนอธิปไตย จนสิ้นสุดภารกิจสำคัญถึงปลายปี 2531 แต่ไทยเราได้สูญเสียวีระบุรุษนักรบ และพลเรือนจำนวนมาก สมรภูมิรบช่องบกมีบันทึก และสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อยกย่องเป็นเกียรติแก่วีระบุรุษ 2 แห่ง คือ
อนุสรณ์เกียรติภูมิ พ.อ.อนุพงษ์ บุญญะประทีป และอนุสรณ์วีรกรรม จ่าสิบเอกสมชาย แก้วประดิษฐ์ เมื่อภัยสงครามตามแนวชายแดนสงบลง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี จึงมีสถานที่สำคัญเพิ่มขึ้น ในนามสามเหลี่ยมมรกต และสมรภูมิช่องบก และได้รับการพัฒนาฟื้นฟู มีโครงการพระราชดำริและการส่งเสริมอาชีพ รวมทั้ง แหล่งท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จัก ไม่น้อยไปกว่าสมรภูมิเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มีโครงการชลประธานอ่างเก็บน้ำพลาญเสือตอนล่าง และตอนบน ส่งผลให้ปะชาชนในท้องถิ่นมีอาชีพ และสร้างรายได้ด้านประมง และใช้น้ำเพื่อการเกษตรอีกด้วย…

การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว อ.บ.ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน ร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อฟื้นฟูและยกระดับพื้นที่ในความรับผิดชอบ จึงได้จัดโครงการหลอมรวมประชาชนในเขต อ.น้ำยืน จัดพิธีทำบุญ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับทหารและผู้เสียชีวิตในสมรภูมิรบช่องบก (ณ เนิน 500) โดยเริ่มจุดประกายครั้งแรก ต้นเดือนมกราคม เมื่อปี 2560 เป็นต้นมาซึ่งจัดช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นทีร่วมกิจกรรมทำบุญ สร้างความรัก ความสามัคคี และร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว รับแสงตะวันก่อนใครในสยามที่ เนิน 500 สามเหลี่ยมมรกต
สำหรับการเดินทางไป เนิน 500 โดยเริ่มจาก จ.อุบลราชธานี ถึง อ.เดชอุดม ระยะทาง 40 กิโลเมตร และไป อ.น้ำยืน 55 กิโลเมตร ถึง อ.บ.ต.โดมประดิษฐ์ ระยะทาง 16 กิโลเมตร และเดินทางจาก อ.บ.ต.โดมประดิษฐ์ ไปตามถนนสายยุทธศาสตร์ เข้าสู่ดินแดนสมรภูมิช่องบก จุดแรกผ่านอ่างเก็บน้ำพลาญเสือตอนล่าง และเดินทางถึงอนุสรณ์สถาน พ.อ.อนุพงษ์ บุญญะประทีป ที่อ่างพลาญเสือตอนบน เพื่อเข้าสู่ช่องบก และเดินทางต่ออีกประมาณ 5 กิโลเมตรเมตร เดินขึ้นภูเขาถึงเนิน 500 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในสมรภูมิรบช่องบก ซึ่งมีอนุสรณ์สถานวีรกรรม จ่าสิบเอกสมชาย แก้วประดิษฐ์ และสามารถชมวิวอันสวยงามสามประเทศที่“สามเหลี่ยมรกต” สถานที่สำคัญและมีประวัติที่ควรจดจำ ดังคำขวัญอำเภอน้ำยืน.. คือ
ดินแดนสามเหลี่ยมมรกต
งดงามผลาญเสือ
เหลือเฟือกัญมณี
มากมีพืชเศรษฐกิจ
ถิ่นสถิตนารายณ์บรรทมสินธุ์
ทุกถิ่นล้วนพัฒนา

- บันทึกประวัติศาสตร์ “สามเหลี่ยมมรกต” พื้นที่รอยต่อชายแดน 3 ประเทศ ไทย-ลาว-กัมพูชา
ใน สมัยสงครามเย็น ช่องบกและสามแยกลาว เป็นที่มั่นของ “ทหารป่า” เขต 11 อุบลฯใต้ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) อีสานใต้
ในสมัยสงครามต่อต้านเวียดนาม ช่องบกเป็นสมรภูมิรบระหว่างทหารไทย-ทหารเขมรแดง กับทหารเวียดนาม-ทหารเฮงสำริน
ในสมัยแปรสนามรบเป็นสนามการค้า ช่องบกและเนิน 500 (สามแยกลาว) เข้าสู่โหมดสันติภาพ จึงมีการสร้าง “ศาลารวมใจไทย กัมพูชา ลาว” (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นศาลาตรีมุข) เป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือร่วมใจของ 3 ประเทศ
ในสมัยสงครามชาตินิยมใหม่ สมเด็จฮุนเซน และท่านผู้หญิงบุนรานี เดินทางมาเยือนศาลาตรีมุข เมื่อปี 2553 ระหว่างที่ไทย-กัมพูชา กำลังมีข้อพิพาทกรณีปราสาทพระวิหาร
ช่องบกใต้ร่มธงแดง : นับแต่ปี 2509 จนถึงปี 2521 พื้นที่ “ช่องบก” และ “สามแยกลาว” ฝั่งพรมแดนไทย ด้าน อ.น้ำยืน อ.นาจะหลวย และ อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี เป็นที่มั่นจรยุทธ์ของ “ทหารป่า” หรือเขต 11 อุบลฯใต้
ห้วงเวลานั้น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ศูนย์การนำอีสานใต้ ได้แบ่งเขตงานย่อยออกเป็น 7 เขต ได้แก่ เขต 11 (อุบลฯ), เขต 30 (ศรีสะเกษ-สุรินทร์), เขต 203 (บุรีรัมย์) และเขต 205 (นครราชสีมา-สระแก้ว)
ในปี 2510-2517 พคท.อีสานใต้ ได้จัดตั้งโรงเรียนการเมืองการทหารที่ อต.4 อยู่ในแขวงจำปาสัก ราชอาณาจักรลาว เมื่อสหายไทยเรียนจบแล้ว ก็จะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยทาง “สามแยกลาว-ช่องบก”
และ ช่วงปี 2517-2521 พรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา หรือ “เขมรแดง” ปกครองกัมพูชา จึงได้อำนวยความสะดวกให้ พคท.อีสานใต้ ใช้ดินแดนกัมพูชา เป็นฐานที่มั่นใหญ่ มีทั้งโรงเรียนการเมือง-การทหาร และแหล่งผลิต
ปี 2520 ศูนย์การนำ พคท.อีสานใต้ ใช้พื้นที่เมืองสำโรง จ.อุดรมีชัย เปิดโรงเรียนการเมือง-การทหาร 305 ซึ่ง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม สมัยเป็นนักศึกษามีชื่อจัดตั้งว่า “สหายใหญ่” เป็นผู้บังคับกองร้อย ฝ่ายการเมือง รับผิดชอบกองร้อยโรงเรียนการเมือง-การทหาร 305
ต้นปี 2522 กองทัพเวียดนามเข้ายึดกรุงพนมเปญ โค่นเขมรแดง ทางศูนย์การนำ พคท.อีสานใต้ จึงสั่งสหายไทย อพยพออกจากกัมพูชาเข้าสู่แผ่นดินไทย และถอยจากอุบลฯ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ ลงมาอยู่แถวนครราชสีมา และสระแก้ว

ยุทธภูมิที่ช่องบก : หลังกองทัพเวียดนาม และกำลังแนวร่วมสามัคคีประชาชาติกัมพูชา ประมาณ 2 แสนคน บุกยึดกัมพูชาโค่นระบอบเขมรแดง สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา ที่มีผู้นำ 3 คน คือ เฮง สำริน, เจีย ซิม และ ฮุน เซน
เวลานั้น เฮง สำริน เป็นนายกรัฐมนตรี เจีย ซิม เป็นรัฐมนตรีกลาโหมและ ฮุน เซน เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
พลันที่เวียดนามยึดครองกัมพูชา รัฐบาลไทยสมัยนั้น จึงร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยใช้ไทยเป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธสนับสนุนเขมรแดง ทำการสู้รบกับทหารเวียดนาม และทหารเฮง สำริน
เหตุที่ไทยต้องดำเนินนโยบายหนุนเขมรแดง เนื่องจาก พ.ศ.โน้น เวียดนามมีแผนการยึดครองภาคอีสานของไทย
ในปลายปี 2527 ทหารเวียดนามได้เคลื่อนกำลังมายึดเนิน 500 (สามแยกลาว) และช่องบกแบบเงียบๆ เมื่อเขมรแดงแจ้งข่าวมาว่า พบฐานทหารเวียดนามในเขตไทย กองทัพภาคที่ 2 จึงมีการพิสูจน์ทราบและขับไล่ผู้รุกราน
จากต้นปี 2528-2531 ได้เกิดการสู้รบเต็มรูปแบบ ระหว่างทหารกองทัพภาคที่ 2 และทหารเวียดนาม-ทหารเฮงสำริน ช่วงแรกทหารไทยเสียเปรียบ เพราะใช้ทหารราบเป็นกำลังหลัก
ช่วงหลังกองทัพภาคที่ 2 ปรับยุทธวิธีใช้ทหารพรานปักธงชัย ผสมทหารเขมรแดง ทำสงครามจรยุทธ์ จึงยึดเนิน 500 และช่องบกกลับคืนมาได้

สงครามและสันติภาพ : ปี 2531 พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี จึงผลักดันให้เกิดสันติภาพในกัมพูชา และชูนโยบาย “แปรสนามรบเป็นสนามการค้า”
ปี 2532 พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี สมัยเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ก่อสร้าง “ศาลารวมใจไทย กัมพูชา ลาว” ที่บริเวณเนิน 500 ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “ศาลาตรีมุข” และเรียกขานเนิน 500 ว่า “สามเหลี่ยมมรกต”
ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มีแนวคิดพัฒนาพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต เป็นแหล่งท่องเที่ยวของ 3 ประเทศ และมีแผนสร้างสนามกอล์ฟด้วย
พื้นที่รอยต่อ 3 ประเทศ หรือ สามเหลี่ยมมรกต ยังเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของไทย-ลาว-กัมพูชา ตลอดไป
………
- ปัญญา แพงเหล่า/รายงาน
20 มิถุนายน 2568
