นักท่องเที่ยวฝรั่งต่างชาติหายไปไหน

ผมเองเป็นหุ้นส่วนในร้านชาบูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง หลังจากวาเลนไทน์เป็นต้นมายอดขายหล่นวูบอย่างน่าตกใจและยังไม่ฟื้นจนวันนี้ ส่วนประกอบหลักๆนอกจากลูกค้าไทยหายไปพอสมควรเหมือนร้านอาหารอื่นๆที่เจอผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ
อีกส่วนหลักคือนักท่องเที่ยวที่หายไปดื้อๆ ผมเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ก็ลดลงจากปีที่แล้วจีน ญี่ปุ่น หายไป 30-40% .. ก็สงสัยอยู่ว่าทำไม แต่ละชนชาติคงมีเหตุผลต่างกัน แต่ทำไมมาลดลงพร้อมๆกัน… แต่ร้านผมหลักๆคือนักท่องเที่ยวจีน
……

เมื่อวานเห็นคุณแท้ป รวิศ และอีกหลายคนแชร์โพสต์ของ Bangkok post learning เรื่องนักท่องเที่ยวลดลงเป็นภาษาอังกฤษ ความน่าสนใจคือตรงคอมเม้นท์ เพราะเพจภาษาอังกฤษแบบนี้คนมาเม้นก็เป็นคนต่างชาติที่ทั้งเป็นนักท่องเที่ยว expat หรือกำลังคิดจะมาเมืองไทยล้วนๆ ไม่มี IO ใดๆ มาเจือปน ความเห็นเหล่านั้นจึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ดีว่าทำไมต่างชาติบางกลุ่มถึงหายไป
แน่นอนว่าเพจอังกฤษก็เป็นกลุ่มต่างชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษ ไม่รวมจีน ญี่ปุ่น ซึ่งก็ต้องไปตามหาเหตุกันต่อไป แต่อย่างน้อยก็ได้เข้าใจกลุ่มหนึ่ง ความเห็นเหล่านี้ก็เหมือนเพจอื่นๆ อ้างอิงอะไรไม่ได้ bias ก็มี แต่ถ้าทำใจเป็นกลาง เหมือนอ่าน feedback ลูกค้าแล้วเลือกมาย่อยก็น่าจะมีประโยชน์อยู่

ผมสรุปและแปลความเห็นบางความเห็นที่ได้รับความนิยมไว้ ลองอ่านกันดูนะครับ
“โรงแรมที่เกาะช้างราคาขึ้นเกือบสองเท่าช่วงสงกรานต์ ตอนแรกก็ว่าจะไปอยู่แต่คิดยังไงก็ไม่คุ้ม เลยไปเขมรดีกว่า และที่เขมรก็มีงานสงกรานต์ที่เจ๋งมากด้วย ที่โน่นจ่ายค่าโรงแรมสิบเหรียญก็ได้แล้ว เหมือนกับว่าที่เกาะช้างยอมมีห้องว่างดีกว่าลดราคา”
“ประเทศไทยยังสวยและคนไทยก็ยังน่ารัก หาไฟล์ทดีๆ ก็ยังพอมีราคาที่รับได้ แต่พยายามหนี พัทยา ภูเก็ต สมุย ละกัน เพราะมีแต่โรงแรมโหดนรกที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งนั้น”
“คิดว่าเพราะราคาตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมที่ขึ้นสูงมากนะ”
“ปัญหาเยอะเหลือเกิน ไม่รู้จะเลือกปัจจัยไหนดี คนไทยชอบซ้อมคนต่างชาติที่เริ่มเมา ตำรวจก็ไถทุกเรื่องจากนักท่องเที่ยว พวกแบกแพคที่มาเที่ยวก็ไม่มีตังค์แล้วเริ่มทำตัวเป็นขอทาน คนอินเดียพยายามดึงเสื้อแล้วลากเข้าบาร์ ซึ่งจริงๆ น่าจะเป็นพนักงานไทยมากกว่าแต่กลายเป็นคนอินเดียเต็มไปหมด คนจีนก็เยอะเกิน เต็มถนนเต็มบาร์ไปหมด คนจีนกับอินเดียไม่ใช้ตังค์ แต่พยายามมาหาตังค์มากกว่า ประเทศไทยดูจะเลี้ยวผิดทุกการตัดสินใจ จีนกำลังยึดเมืองอย่างช้าๆ คนที่ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ก็ไปประเทศอื่นดีกว่าโดยเฉพาะคนที่พอมีตังค์ใช้จ่ายตามประเทศยุโรป“

“นักท่องเที่ยวอินเดียมาเยอะไปจนมูลค่าการท่องเที่ยวหล่นวูบ”
“ทุกปีผมไปกรุงเทพฯ ปีละหลายครั้งเพื่อเฮฮากับเพื่อนฝูง เพราะราคาโรงแรมดี มีร้านขายของไม่แพงเยอะ แต่หลังโควิด ค่าตั๋วแพงมาก แพงจนไม่น่าไป”
“กฎคนเข้าเมืองเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกจนงง ไม่รู้อยู่นานได้แค่ไหน และไม่มีอะไรถูกอีกต่อไป ประเทศข้างเคียงดูน่าสนใจ น่าเที่ยวกว่ามาก”
“ขายกัญชาและให้สูบตามสบายนี่คือปัญหา”
“ตอนนี้ดีขึ้นเยอะนะ มีแกร๊ปละ แท็กซี่จะโกงยากขึ้นหน่อย”
“ประเทศไทยเคยมีวันที่ดีและรุ่งเรือง...แต่ตอนนี้มันผ่านไปละ มีที่ใหม่ๆ ที่น่าสนใจและถูกกว่ามาแทน”
“เพิ่งกลับไปแล้วพบว่ามันแพงขึ้นสองเท่า เลยไปอยู่เขมรหนึ่งอาทิตย์ เป็นการตัดสินใจที่ถูกมาก”
“นี่คือปัญหาเวลามองว่านักท่องเที่ยวคือ ATM”

“ตอนนี้อยู่ที่กระบี่และภูเก็ต สองที่นี้คนเยอะมาก แต่ก็น่าเศร้าที่หาดเริ่มสกปรก ภูเก็ตแย่กว่ากระบี่ เพิ่งไปหาดกะตะมาวันนี้ น่าขยะแขยงมาก ขยะก็เต็มสองข้างทาง ฟุตบาทก็พัง พวกนี้ควรจะต้องปรับปรุงขนานใหญ่นะน่าจะยังอยากทำเงินจากการท่องเที่ยวอยู่“
“ตอนนี้ค่าเดินทางรวมๆ ขึ้นมา 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน”
“ลองคิดดูสิว่ามันจะดีขึ้นแค่ไหนถ้าพวกเขาปรับปรุงเรื่องความปลอดภัย ด้านโครงสร้าง ด้านมาเฟีย แท็กซี่ และตุ๊กตุ๊ก ทำความสะอาดบ้าง และทำให้การเดินเท้าสะดวกขึ้น … แต่พวกเขาดูจะไม่อยากได้อะไรพวกนี้เลย”
“ปัญหาคือแต่ก่อนมีแต่ประเทศไทยเป็นตัวเลือก ตอนนี้มีหลายประเทศมากที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ประเทศใหม่ๆ เหล่านั้นเริ่มสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟความเร็วสูงและอื่นๆ มันถูกกว่ามากที่จะไป เวียดนาม เขมร ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตัวเลือกเยอะ ที่ฟิลิปปินส์ก็สามารถได้วีซ่าอยู่อาศัย 5 ปี ซึ่งทำให้ได้มีสิทธิประกันสุขภาพและกู้เงินซื้อคอนโดได้ด้วย”
“ถ้าฉันจะอยากอยู่ท่ามกลางคนรัสเซีย ไปมอสโคว์น่าจะดีกว่า”

“ประเทศไทยเหมาะกับพวกแบคแพคมาก แต่ไทยก็ไม่อยากได้เพราะพวกแบคแพคไม่ใช้ตังค์ ไทยอยากได้พวกคนรวยมากกว่า แต่คนรวยก็ต้องการมาตรฐานการบริการที่สูงซึ่งไทยล้าหลังอยู่ 10 ปี หลายคนถูกโกงถ้าพูดภาษาไม่ได้ คนรัสเซียเต็มเมืองและกร่างมาก เรือ รถบัสก็แน่นเป็นปลากระป๋อง มันมีหลายเหตุผลที่คนหนีไปเวียดนาม ไปสวนสัตว์เก็บคนไทยร้อยเดียว แต่เก็บฝรั่งพันสอง! ลองคิดถึงประเทศที่เจริญแล้วไม่มีใครเขาทำกันแบบนี้”
“ผมเพิ่งไปพัทยามาเดือนมกรา ตกใจมากนึกว่าไปบอมเบย์ คนอินเดียเต็มพัทยาไปหมด ตั้งแต่สินค้าอินเดีย ร้านขายของอินเดีย ร้านอาหารอินเดีย และนักท่องเที่ยวอินเดีย หาดก็สกปรก รถก็ติด แน่นเกินไป ระบบระบายน้ำก็เหม็นหึ่ง ไม่ไปอีกแน่ๆ”
“หาดสกปรก น้ำเสีย พลาสติกเต็มไปหมด ไม่มีการบริหารจัดการของเสีย ไม่มีการให้การศึกษากันเลยว่าจะดูแลธรรมชาติเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืนยังไง และไม่มีการพยายามแก้เรื่องฝุ่น รถติดเสียงดัง แม้กระทั่งบนเกาะ ไปที่อื่นดีกว่า”
“เพิ่งโดนเก็บ 200 บาท เข้าอุทยานแต่แฟนโดนเก็บแค่ 40 เพราะหน้าเหมือนคนไทย จะหานักท่องเที่ยววิธีนี้ ใครจะอยากมา”
……
เอามาให้อ่านแบบแสบๆ คันๆ เอาจริงๆ เราท่านก็อาจจะพอรู้กันอยู่ แต่พออ่านแล้วก็ยังเจ็บจี๊ด แต่ถามว่าแก้ยังไง ใครควรแก้ ก็ได้แต่เอาไปกองรวมไว้กับปัญหาอื่นๆ ที่กองพะเนินอยู่และดูจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในนั้นก็มีปัญหาคอร์รัปชั่น กฎหมาย เศรษฐกิจ ฯลฯ อะไรรวมๆ กันจนกองนั้นจะล้มแหล่มิล้มแหล่อยู่แล้ว
อ่านไว้พอเข้าใจ segment ฝรั่งนี้ก่อน จะสาบส่งว่าดีแล้ว ไม่ต้องมาถ้าไม่ชอบกัน ไม่เห็นด้วยก็ไปเถียงกะเขาไนเพจ ไม่ใช่เถียงกะผม ผมแปลมาเฉยๆ หรือจะทำความเข้าใจและทำใจเวลายอดตก หรือจะก่นด่าใครระบายออกก็ตามสบายนะครับ….
ผมเองก็ต้องไปหาทางฟื้นร้านชาบูของตัวเองก่อนในตอนนี้ …
…..
ขอบคุณ : ดร. วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา
