มนุษย์พึ่งพาระบบนิเวศน์ที่เปราะบางยิ่ง “วีระศักดิ์” ชี้ต้องเพิ่มมิติการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้น

13 มีนาคม 2568 ในการประชุมวิชาการระดับชาติ ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ ครั้งที่20 จัดโดยสมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้าและองค์กรร่วมจัด โดยปีนี้จัดที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.ประสานมิตร) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ อดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ”เมืองกับความท้าทาย ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต” เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และศาสตราจารย์ ดร.อัมพร ธำรงลักษณ์ คณะกรรมการสมาคม คณาจารย์และนิสิตคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ให้การต้อนรับ

โดยนายวีระศักดิ์ได้ชี้ให้เห็นถึงกลุ่มปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ทั้งก่อตัวขึ้นในเมืองและที่ลามจากนอกเมืองเข้ามาสู่เขตเมืองว่ามีความซับซ้อนและต้องการการออกแบบและให้น้ำหนักทางนโยบายรัฐกิจอย่างเข้มข้น โดยสามารถจำแนกกลุ่มปัญหาท้าทายออกได้เป็น 3 ด้าน คือ ด้วยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ด้านการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศน์ ซึ่งในด้านระบบนิเวศน์ยังแบ่งได้อีก 3 กลุ่มได้แก่ 1 กลุ่มปัญหามลพิษ เช่น ขยะล้น น้ำเสียปนเปื้อนโลหะหนัก อากาศเป็นพิษ 2 กลุ่มปัญหาจากความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่นน้ำทะเลยกระดับ อากาศสุดขั้ว และ 3 กลุ่มปัญหาจากการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เช่นการหายไปของแมลงผสมเกสร ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหาร เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยนโยบายภาครัฐที่เข้าใจวิทยาศาสตร์ เข้าใจจิตวิทยามนุษย์และสังคม เข้าใจเศรษฐมิติของภูมิศาสตร์ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ดังนั้นบทบาทของนักบริหารและผู้สนใจด้านรัฐประศาสนศาสตร์จึงมีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการเชื่อมระบบ พัฒนาระบบเพื่อให้อำนาจรัฐและพลังทางสังคมและธุรกิจตลอดถึงชุมชนสามารถถักทอเสริมส่งกันและกันในการจัดการกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษย์กำลังเผชิญและเรียนรู้ร่วมกันที่จะอยู่กับสถานการณ์ที่ยังไม่เคยมีมนุษย์ยุคใดๆ เคยรับมือมาก่อน