บสย. MOU กองทุน FTA และหน่วยงานพันธมิตร เพิ่มศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน

            นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าให้มีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้น ร่วมกับกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ หรือ FTA สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารจากองค์กรพันธมิตร ได้แก่ นายอานนท์ นนทรีย์ รองอธิบดี กรมการข้าว นายสุรกิตติ ศรีกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการผลิตพืช กรมวิชาการเกษตร นายวชิระ แก้วกอ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และ นายณะที ไกรลพ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยมี นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการลงนาม ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ

            นายสิทธิกร กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ บสย. จะมีส่วนร่วมในการยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตรกรรม ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ทั้งในด้านความรู้ทางการเงิน บัญชี ธุรกิจ เติมเต็มองค์ความรู้ระหว่างกันด้วยหลักสูตรฝึกอบรม SMEs ภาคเกษตร ทั้งด้านการผลิต ตลาด แปรรูป และต่อยอดสู่การส่งออก การเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อ ผ่านศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs ช่วย SMEs ภาคเกษตรกรรมเข้าถึงสินเชื่อ ผ่านกลไกค้ำประกันสินเชื่อ รวมทั้งปรับโครงสร้างภาคเกษตรที่ได้รับผลกระทบจาก FTA

            ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 33 ปี บสย. ให้การค้ำประกันสินเชื่อ SMEs มากกว่า 8 แสนราย มีสัดส่วนการค้ำประกันสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจการเกษตรอยู่ในอันดับต้นๆ ของพอร์ตค้ำประกันทั้งหมด คิดเป็นวงเงินกว่า 1.4 แสนล้านบาท โดยในปี 2566 สัดส่วนการค้ำประกันสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจการเกษตร อยู่ในอันดับที่ 3 คิดเป็น 10% โดยมียอดค้ำประกันสินเชื่อกว่า 14,000 ล้านบาท

            นายกิตติพงษ์ บุรณศิริ รองผู้จัดการทั่วไป สายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ บสย. กล่าวในเวทีเสวนา “Fast Track Future Free Trade FTA Fund สานพลัง เครือข่ายกองทุนหนุนเกษตรไทย” ว่า ขณะนี้ บสย. ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังให้ดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” วงเงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อช่วย SMEs ภาคเกษตรเข้าถึงสินเชื่อโดย บสย. มีผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ กลุ่ม “Smart Green” รองรับค่าธรรมเนียม 0% สูงสุด 4 ปีแรก สูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย ค้ำประกันนาน 10 ปี

            สำหรับ SMEs ภาคเกษตรกรรม สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs ฟรี ผ่านแพลตฟอร์ม LINE OA @tcgfirst และสำหรับ SMEs ภาคเกษตรที่เป็นลูกหนี้ค้างชำระกับ บสย. สามารถเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ภายใต้โครงการ “บสย. พร้อมช่วย” โดยมีเป้าหมายช่วยปลดล็อกภาระหนี้ ให้ลูกหนี้ กลับมายืนได้ ด้วยมาตรการผ่อนชำระตามความสามารถในการผ่อน เพื่อช่วยลูกหนี้หลุดพ้นจากปัญหาหนี้โดยเร็ว.