เล่าเรื่อง เมืองอุบล EP.28 : เมืองนักปราชญ์ สูญเสีย “คำปุน ศรีใส” ศิลปินแห่งชาติ ปี ๒๕๖๑

   เมื่อ : 21 ก.ค. 2567

            ประวัติโดยย่อ นางคำปุน ศรีใส เกิดเมื่อวันที่ ๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๗๖ ที่คุ้มวัดกลาง ตำบลยโสธร อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนสามัคคีวัฒนา เมื่อ พุทธศักราช ๒๔๘๕ 

            นางคำปุน ได้รับการปลูกฝังอบรมจากครอบครัวให้เป็นคนดี มีจิตใจโอบอ้อมอารี และได้รับการปลูกฝังวัฒนธรรมการทอผ้าที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ โดยเฉพาะจากคุณยายและคุณแม่น้อย ศรีใส ทำให้นางคำปุน รักและชื่นชมศิลปะการทอผ้า แม้เมื่อมีครอบครัวกับนายเตียซ้ง แซ่แต้ ซึ่งมีอาชีพค้าขาย ทำให้ต้องหยุดการทอผ้าเพื่อไปประกอบอาชีพตามสามี แต่นางคำปุน ศรีใส ได้ซึมซับการทอผ้าเป็นชีวิตจิตใจ จึงทำให้หวนกลับมายึดอาชีพทอผ้าอีกครั้ง นางคำปุน จึงได้พัฒนาการทอผ้าไหมและขยายเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนอย่างจริงจังที่ถนนผาแดง พร้อมกับเปิดร้านคำปุน ขายผ้าที่หน้าตลาดใหญ่ ส่วนศิลปะการทอผ้าไหมก็ได้พัฒนาลวดลายให้วิจิตรพิสดาร โดยยึดรากฐานการทอผ้าอีสาน คือ หมี่ ขิด ยก และ จก เป็นพื้นฐาน และพัฒนาผ้าไหมให้มีลวดลายหลากหลายยิ่งขึ้น ทำให้นางคำปุนได้รับอนุญาตให้ขยายโรงทอผ้าไหมด้วยกี่ ๒๔ หลัง โดยใช้ชื่อว่าโรงทอผ้าไหมคำปุน

            นางคำปุน ศรีใส ยังได้มีการถ่ายทอดให้บุตรชาย เป็นผู้สืบสานตำนานผ้าไหมคำปุนดำเนินกิจการแทน จึงทำให้ผ้าไหมคำปุนก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง ผ้าแต่ละผืนได้ออกแบบผสมผสานรากฐานเดิม กับเทคนิคสมัยใหม่ ทำให้ผืนผ้ามีความวิจิตรพิสดาร เพิ่มมูลค่า มีราคาผืนละเรือนหมื่นเรือนแสน 

            ปัจจุบันโรงทอผ้าไหมคำปุน ได้ทอผ้าหลายชนิด คือผ้าไหมสีต่างๆ ผ้าไหมมัดหมี่ชนิด ๒ ตะกอ ๓ และ ๔ ตะกอ รวมถึงผ้าไหมยกเงินผ้าไหมยกทอง โดยผ้าที่มีชื่อเสียงของบ้านคำปุน คือ ผ้าไหมมัดหมี่ผสมการจก (การปัก) ด้วยไหมสีต่างๆ มีทั้งไหมเงินไหมคำลงบนผืนลายผ้า ช่วยให้ผ้ามีความงดงามวิจิตรตระการตามากขึ้น อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะอันโดดเด่นของผ้า 

            จากความคิด ปรัชญาและความสามารถในการสร้างสรรค์งานฝีมือด้วยลวดลายที่เต็มไปด้วยศิลปะ กลับบ่งบอกถึงความเป็นอัจฉริยะในทางความคิด และการออกแบบที่งดงามแปลกตา อีกทั้งทรงคุณค่าอย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง

            ผลงานของ นางคําปุน ศรีใส นั้นจะมีความโดดเด่นที่ความประณีตของเส้นใย และการให้สีหลากหลายที่ผสมกลมกลืนกันได้อย่างสวยงาม เป็นที่กล่าวขวัญกันในเชิง “ผ้ามีระดับ” ทั้งนี้ ก็ด้วยกรรมวิธีในการทอ ตลอดจนการให้สีผ้าและการเลือกวัสดุที่มีคุณภาพ ที่มีความละเอียดประณีตในทุกขั้นตอน ผ้าคําปุนได้รับความสนใจจากบุคคลผู้มีชื่อเสียงของประเทศนําไปใช้ในพิธีการต่างๆ อยู่เสมอ เช่น ในการหมั้น การเข้าเฝ้า เป็นต้น และยังได้ใช้เป็นเครื่องแต่งกายของตัวเอกในภาพยนตร์เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวร”

            นางคำปุน ศรีใส สร้างความดี ความงาม ด้วยพลังกาย พลังใจ ด้วยสติปัญญาและพลังศรัทธา จึงส่งผลให้ นางคำปุน ศรีใส รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากองค์กรต่างๆ และที่น่าชื่นชม เหนือสิ่งอื่นใดคือผลงาน แห่งอัจฉริยภาพในการทอผ้าไหม อันเป็นการสืบสานใยตำนานผ้าพื้นเมืองให้คงอยู่ 

            นางคำปุน ศรีใส ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินมรดกอีสาน สาขาทัศนศิลป์ (หัตถกรรมผ้าทอ) ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๘ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นเกียรติประวัติสืบไป และในปีพุทธศักราช​ ๒๕๖๑ ได้รับการยกย่องเป็นศิลปิน​แห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์​ (ประณีต​ศิลป์-ทอผ้า) นับเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลสืบไป

            นางคำปุน ศรีใส ถึงแก่กรรม วันอาทิตย์ที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๓๘ น. สิริอายุ ๙๑ ปี และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ เมรุชั่วคราว วัดศรีอุบลรัตนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

          ……….. 

  • ปัญญา แพงเหล่า/รายงาน

          16 กรกฎาคม 2567