รัฐบาลยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ผลักดันกฎหมายเพิ่มความคุ้มครองให้กับลูกจ้าง 11 เรื่อง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับแรงงานนอกระบบ ซึ่งเป็นอีกกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มุ่งผลักดันมาตรการ ส่งเสริมแรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามกฎหมาย ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยในปัจจุบัน
รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงาน ได้ผลักดันการออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2567) ตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 30 เมษายน 2567 มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มการคุ้มครองให้กับลูกจ้างซึ่งทำงานบ้าน 11 เรื่อง ได้แก่
1. มีเวลาทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน
2. มีเวลาพักไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง
3. มีสิทธิลากิจธุระอันจำเป็น
4. ห้ามลูกจ้างหญิงมีครรภ์ทำงานเวลา 22.00 – 06.00 น. ทำล่วงเวลา หรือวันหยุด
5. ลูกจ้างหญิงลาคลอดได้ 98 วัน
6. ห้ามเลิกจ้างเพราะเหตุมีครรภ์
7. ให้นายจ้างแจ้งการใช้แรงงานเด็ก
8. ลูกจ้างเด็กมีสิทธิฝึกอบรมโดยได้รับค่าจ้าง 30 วัน
9. ลูกจ้างหญิงได้รับค่าจ้างลาคลอด 45 วัน
10. ห้ามนายจ้างหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด
11. ลูกจ้างได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานในทุกภาคส่วน ให้แรงงานทุกกลุ่ม ได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ครอบคลุมและสอดคล้องตามสภาพสังคมและเศรษฐกิจ รวมทั้ง สนับสนุนให้ กฎ ระเบียบ ช่วยดูแลคุ้มครองแรงงาน อย่างทั่วถึง และเท่าเทียม ด้วยตระหนักดีว่า แรงงานทุกคนคือกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ
- คนทำงานบ้านเฮ ได้สิทธิลาคลอด 98 วัน มีผลบังคับใช้แล้ว
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้ตระหนักถึงความสำคัญของแรงงานนอกระบบ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพราะเป็นแรงงานกลุ่มใหญ่ที่สุดมีจำนวนมากกว่า 20 ล้านคน ให้สามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานในการประกอบอาชีพ มีหลักประกันสังคม มีความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกจ้างซึ่งทำงานบ้าน ซึ่งการคุ้มครองตามกฎหมายยังไม่ครอบคลุมและยังไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงาน จึงเร่งผลักดันกฎหมายให้ขยายความคุ้มครองให้ลูกจ้างซึ่งทำงานบ้านได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา.